Article - 3DScanner, Article Mi, Article-GOM, Articles

5 เหตุผลสำคัญที่ผู้ทำงานด้านการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ควรเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี 3D Scanning

เทคโนโลยี 3D Scanning ตัวช่วยในงานตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ ระดับ CMM

เทคโนโลยี 3D Scanning การสแกน 3 มิติ จะเป็นตัวช่วยสำคัญในงานตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์

ผู้ทำงานเกี่ยวกับ เทคโนโลยี 3D Scanning การสแกน 3 มิติ การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เป็นงานที่ต้องอาศัยเทคนิค ความรู้ ความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ อย่างลึกซึ้ง เพราะคุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านความสมบูรณ์แบบของโลกอุตสาหกรรม ทุกคนในวงการอุตสาหกรรมล้วนคาดหวังว่าจะสร้างชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ มีกระบวนการผลิตแบบ LEAN มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมดของการผลิต 

5 เหตุผลสำคัญที่ผู้ทำงานด้านการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ควรเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี 3D Scanning

เครื่องมือในการทำงานจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมสำหรับงานแต่ละประเภทเสมอและบางครั้ง CMM อาจดูเหมือนเหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ แต่อย่าปล่อยให้ข้ออ้างที่ว่า “เรามีเครื่อง CMM และผู้ปฏิบัติงานที่ผ่านการฝึกอบรมคอยทำงานอยู่แล้ว” มาเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้คุณขยายขีดความสามารถในการทำงานของคุณ และในบทความนี้เราจะให้เหตุผลสำคัญ 5 ประการ ที่จะการเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการวัดในวิธีแบบเดิมๆ ของคุณใหม่ จากประโยชน์มากมายของเทคโนโลยี 3D Scanning

 

1.แม่นยำ ง่าย รวดเร็ว และชัดเจน

เทคโนโลยี 3D Scanning : แม่นยำ ง่าย รวดเร็ว และชัดเจน

เทคโนโลยี 3D Scanning การสแกน 3 มิติ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทดแทนเทคโนโลยีการวัดแบบเดิม แต่ถูกสร้างมาเพื่อทำในสิ่งที่ดีกว่า ดังนั้นลองเปลี่ยนความคิดของคุณ โดยคุณสามารถพบเห็นตัวเลือกเครื่องวัดรูปแบบต่างๆมากมายในตลาดที่สามารถเทียบเคียงความแม่นยำระดับ CMM ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่คุณเลือก แต่สำหรับการใช้งานในการเก็บข้อมูลด้วย 3D Scanning นั้น ง่ายกว่าการที่จะต้องมานั่งเขียนโปรแกรม CMM อย่างแน่นอน การสแกนด้วยแสงนั้นเป็นเหมือนการพ่นสีและการสแกนโครงสร้างก็เหมือนกับการถ่ายรูป แต่คุณสามารถเรียนรู้การใช้งานได้อย่างไม่ยุ่งยาก และหากมีประสบการณ์ที่คุ้นเคยกับงานด้านการวัดอยู่แล้ว งานของคุณก็จะยิ่งง่ายดายมากยิ่งขึ้น

การรับข้อมูลด้วย 3D Scanning นั้นรวดเร็วมากขึ้นทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนข้อมูลที่ได้รับกับเวลาที่ใช้ในการสแกน 3 มิติที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ CMM (หรือมากกว่าเป็นล้านเท่า!) เห็นได้จากแต่ละจุดสัมผัสการวัดของ CMM ใช้เวลา 2-3 วินาที ในขณะเดียวกันเครื่องสแกนแสงที่มีโครงสร้างความละเอียดสูงอาจจับจุดข้อมูลหลายล้านจุด (หรือที่เรียกว่า cloud point) โดยตั้งโปรแกรมกำหนดจำนวนจุดสัมผัสเท่ากันกับ CMM เพื่อกำหนดคุณสมบัติที่เหมือนกัน นั่นจะทำให้เห็นว่าวิธีไหนจะช่วยให้คุณใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

การวิเคราะห์ข้อมูลจากการสแกนนั้นง่ายกว่าการใช้ข้อมูล Excel ซึ่งเป็นมาตรฐานของการวิเคราะห์ข้อมูลของ CMM เมื่อคุณดูข้อมูลจากการสแกน คุณจะเห็นชิ้นส่วนและคุณสมบัติต่างๆ แต่ถ้าคุณดูที่ข้อมูลจาก CMM ในค่าตาราง Excel แบบดั้งเดิม จะมีการแปลงเล็กน้อย ดังนั้นในการเปรียบเทียบผลการวัดกับค่าบนแบบ Drawing ของการสแกนจะเห็นภาพได้ครอบคลุมกว่า

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า CMM นั้นสัมผัสวัดกับพื้นผิวที่ต้องการวัดได้จริงหรือไม่? หรือคุณเคยพบ  Drawing บอกให้เราไปหาค่าขนาดของเส้นสัมผัสผิวใดๆหรือไม่ ? ข้อมูลการสแกน 3 มิติสามารถขจัดข้อผิดพลาดในผลวัดเหล่านี้ได้ อีกทั้งยังทำให้การสื่อสาร การจัดการหรือการทำงานกับทีมแผนกอื่นได้ง่ายขึ้น โดยทุกคนในทีมสามารถแก้ไขปรับปรุงหรือการตัดสินใจในข้อมูลได้ ทำให้ทุกฝ่ายสามารถไว้วางใจในคุณภาพสินค้าที่จะจำหน่ายออกไปยังลูกค้า

 

2.พื้นที่ทำงานและเคลื่อนย้ายสะดวก

พื้นที่ทำงานเคลื่อนย้ายสะดวก

งานด้านคุณภาพของคุณไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากมายอีกต่อไป เพราะเครื่องสแกนเนอร์ 3 มิติสามารถเคลื่อนย้ายพกพาได้สะดวก และยังสามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ในขณะที่ยัง “ใช้งาน” อยู่และพร้อมใช้งานตลอดเวลา

เครื่องมือที่มีขนาดใหญ่เกินไป หรือหนักเกินไปไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้ายผ่านประตูห้องแล็บ เราจึงไม่เห็นใครนำเครื่อง CMM ของคุณออกไปติดตั้งที่ชั้นการผลิตเพราะต้องการห้องสำหรับเครื่องวัดจริงๆ แต่สำหรับ 3D Scanning ถูกออกแบบมาสำหรับงานอุตสาหกรรม เพียงแค่เอาสายสะพายข้างแล้วทำการสแกนชิ้นงานของคุณได้เลย และการสแกน 3 มิติยังช่วยให้คุณสามารถวัดเปรียบเทียบหรือสร้างเครื่องมือใหม่จากข้อมูลการสแกน โดยที่คุณไม่สามารถทำสิ่งนี้กับเครื่อง CMM ได้!

งานของคุณมีความจำเป็นต้องประกอบชิ้นส่วนหรือชุดประกอบหลายชิ้นหรือไม่? ถ้าหากใช่ คุณไม่จำเป็นต้องสร้างโปรแกรมเครื่อง CMM สำหรับชิ้นส่วนย่อยหรือชุดประกอบ เพียงแค่สแกนมันซะ! การสแกน 3 มิติสามารถช่วยคุณระบุปัญหาได้เร็วกว่าวิธีการทั่วไป โดยที่คุณสามารถดูส่วนตัด(Cross section) ใดๆในชิ้นงานข้อมูลการสแกนก็ได้ สิ่งนี้คุณอาจจะสามารถทำได้เฉพาะกับการทดสอบชิ้นงานแล้วค่อยไปวัดด้วยเครื่อง CMM อีกครั้ง

 

3.การฝึกอบรม

ผู้ใช้งานเครื่อง CMM 3D Scanning การฝึกอบรมเฉพาะทาง

พนักงานผู้ใช้งานเครื่อง CMM จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมเฉพาะทาง อีกทั้งผลจากการทำงานของพนักงานและเวลาปิดเครื่อง ส่งผลต่อคอขวดในกระบวนการดำเนินงานตรวจสอบคุณภาพของคุณ แต่ด้วยการฝึกอบรมในระยะเวลาที่เท่ากันกับพนักงานผู้ใช้งานเครื่อง CMM ปกติ คุณจะได้รับเทคนิคการสแกน 3 มิติที่สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้นและทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น การเรียนรู้เทคโนโลยี 3D Scanner นั้นใช้เวลาไม่มากและมักจะปลุกไฟในตัวผู้ปฎิบัติงาน พวกเขาจะตื่นเต้นที่กับการทำงานที่น่าสนใจมากขึ้น! อีกทั้งเปลี่ยนรูปแบบตารางการนำเสนอข้อมูลจากโปรแกรม Excel ที่ไม่น่าสนใจ ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นในลักษณะของรูปร่างการวัดแบบสามมิติพร้อมสีแบ่งความชัดเจนของส่วนที่คุณภาพผ่านหรือไม่ผ่าน

 

4.หมดปัญหากับโพรบวัดของ CMM และการบริการวัดเวลาฉุกเฉินอีกต่อไป

PPAP อย่างเดิม! สำหรับการสแกน 3 มิติ โพรบวัดของ CMM

คนส่วนใหญ่ที่บริหารจัดการกระบวนผลิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักเคยประสบกับความผิดพลาดจากการทำงานของเครื่อง CMM ซึ่งส่งผลกับเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความผิดพลาดนั้นอย่างมาก มันจะลดเวลาการทำงานของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ PPAP อย่างเดิม! สำหรับการสแกน 3 มิติเป็นวิธีการตรวจวัดแบบไม่ต้องมีการสัมผัส ซึ่งช่วยขจัดปัญหาออกไป

 

5.การเก็บข้อมูล

3D Scanning : การเก็บข้อมูล

ทุกวันนี้การเก็บข้อมูลเป็นสิ่งที่ราคาไม่แพงและง่ายดาย อย่างไรก็ตามข้อมูลจากการสแกนจะให้คุณมากกว่าแค่การวัดข้อมูล คุณเคยพบข้อบกพร่องจากการวัดข้อมูลผ่านเครื่อง CMM และจำเป็นต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติมให้มันหรือไม่? ข้อมูลจากเครื่อง CMM จะตรวจจับสิ่งที่คุณต้องการผ่านโพรบเท่านั้น ดังนั้นหากคุณทำผิดพลาด คุณจะไม่สามารถกลับมาจัดการกับมันได้ นอกจากนี้ข้อมูลการสแกนยังช่วยให้คุณได้รับประโยชน์ ในกรณีที่ลูกค้าร้องเรียนให้ตรวจสอบชิ้นงานใหม่อีกครั้ง

อย่างเช่นงานมีลักษณะเป็นเส้น และการรักษาตัวอย่างกับข้อบกพร่องเรื่องการใช้พื้นที่กับวัสดุ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องนั้นมีค่าสูง การที่ต้องเก็บข้อมูลไว้สำหรับการอ้างอิงเพื่อความปลอดภัย และต้องกำจัดมันซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นช่วงการจัดการสินค้าคงคลังประจำปี แล้วใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับเรื่องนี้ล่ะ? สำหรับการจัดเก็บข้อบกพร่องของคุณเเบบดิจิตอลจะช่วยให้คุณสามารถนำข้อมูลกลับมาเปรียบเทียบวัดและบันทึกข้อมูลใหม่ได้ โดยไม่ต้องวุ่นวายกับนำงานมาวัดใหม่ซ้ำๆ

สำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณภาพ  คุณควรจะต้องระลึกถึงข้อจำกัด 3 ประการ (คุณภาพ เวลาและค่าใช้จ่าย) ซึ่งเราบอกว่าสามารถเลือกจัดการได้เพียงสองอย่างเท่านั้น แต่การสแกน 3 มิติจะช่วยให้คุณสามารถข้ามข้อจำกัดทั้ง 3 ประการ ความชัดเจนและจำนวนจุดของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มคุณภาพการวัดของคุณ ทำให้การฝึกอบรมของคุณง่ายขึ้นและลดเวลาในการเขียนโปรแกรม CMM ของคุณ ช่วยคุณประหยัดเวลาขึ้นอย่างมากทำให้งานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถสร้างโครงการใหม่ขึ้นมาอีกได้ ไม่ว่าคุณจะเปรียบเทียบการซื้อเครื่อง CMM กับเครื่องสแกน 3 มิติ หรือเครื่อง CMM กับผู้ให้บริการด้าน 3D Scanning คุณก็จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ต่ำลงและประสิทธิภาพของข้อมูลการสแกน 3 มิติที่เพิ่มขึ้น เพราะการนำการสแกน 3 มิติมาใช้ในกระบวนการทำงานของคุณจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญให้กับธุรกิจของคุณในการทำตลาด

หากคุณยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงการทำงานด้วยเครื่อง CMM แบบเดิมๆของคุณเป็นการสแกนแบบ 3 มิติคุณแล้วล่ะก็ คุณจะต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : http://bit.ly/38FiQor

Youtube : https://www.youtube.com/user/AppliCAD

Line : @AppliCAD.Mi (มี @ นำหน้าด้วย) 

Tel : 02-744-9045

การทำงานของ GOM Inspect : 3D Metrology โปรแกรมวัดชิ้นงานสามมิติ

มารู้จัก GOM เทคโนโลยีระบบการวัดด้วยแสงแบบ 3 มิติ (Optical 3D Metrology) ตรวจวัดด้วยแสงความละเอียดสูง สำหรับงานอุตสาหกรรม ที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว และแม่นยำในการตรวจสอบ รองรับกับชิ้นงานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก หรืองานใหญ่มักถูกใช้ในงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพของชิ้นงานระหว่างผลิต

สามารถดาวน์โหลดทดลองใช้ GOM Inspect ได้ฟรี : https://www.gom.com/3d-software/gom-inspect.html

 

อ้างอิง  Top 5 Reasons Quality Managers Should Convert to 3D Scanning

แปลและเรียบเรียง Duangporn N.

 


Photo of author
WRITTEN BY

duangporn