IT Update

External Battery

ยุคนี้สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ยิ่งทุกวันนี้ 3G กำลังมาแรง ยิ่งทำให้แบตเตอรี่มือถือหมดไว้ขึ้น บางทีก็น่าหงุดหงิดไม่น้อย ใช้ไม่ถึงวันแบตเตอรี่หมด เล่นต้องพกที่ชาร์ทแบตไปไหนมาไหนด้วยทุกวีทุกวันก็คงจะไม่ไหว ดังนั้นก็ต้องพึ่งตัวช่วย “แบตเตอรี่แบบพกพา” (External Battery)

แบตสำรองที่มีให้เลือกมากมาย หลากหลายแบบตามขนาดความจุที่แตกต่างกันไป อันไหนดี รุ่นไหนเหมาะ คงต้องเลือกให้เข้ากับความต้องการของคุณเองแล้วละ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ อุปกรณ์ที่เราจะใช้ชาร์ต มีความจุของแบตเตอรี่เท่าไร เช่น iPhone 5 แบตเตอรี่ มีความจุประมาณ 1440 mAh ถ้าจะชาร์ทให้เต็ม 100% ก็ควรเลือกแบตสำรองรุ่นที่มีความจุประมาณ 1700 mAh ขึ้นไป

ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความจุของแบตเตอรี่ SmartPhone และ Tablet กันหน่อยดีกว่าค่ะ

SmartPhone โดยทั่วไป แบตเตอรี่ความจุประมาณ 1,350 – 1,500 mAh

iPhone แบตเตอรี่ความจุประมาณ
iPhone 3GS 1219 mAh
iPhone 4 1420 mAh
iPhone 4S 1430 mAh
iPhone 5 1440 mAh
iPod Touch แบตเตอรี่ความจุประมาณ
iPod Touch Gen 1 900 mAh
iPod Touch Gen 2 800 mAh
iPod Touch Gen 3 789 mAh
iPod Touch Gen 4 930 mAh
iPod touch Gen 5 1030 mAh
iPad แบตเตอรี่ความจุประมาณ
iPad 1 6600 mAh
iPad 2 6930 mAh
The New iPad 11560 mAh
iPad 4th Gen 11666 mAh
iPad Mini 4400 mAh
Sumsung Galaxy แบตเตอรี่ความจุประมาณ
Sumsung Galaxy s2 1650 mAh
Sumsung Galaxy s3  2100 mAh
Sumsung Galaxy Note 2500 mAh
Sumsung Galaxy Note2 2500 mAh
Sumsung Galaxy Note10.1  7000 mAh
Galaxy Tab แบตเตอรี่ความจุประมาณ
Galaxy Tab2 7.0  4000 mAh
Galaxy Tab 7.0 Plus 4000 mAh
Galaxy Tab 7.7 5100 mAh
Galaxy Tab 8.9 6100 mAh
Galaxy Tab 10.1 7100 mAh
Galaxy Tab2 10.1  7000 mAh

Blackberry แบตเตอรี่ความจุประมาณ 1100 mAh

เคยสังเกตกันบ้างมั้ย? บนกล่องแบตเตอรรี่สำรองจะมีสัญลักษณ์เหล่านี้

FCC เป็นมาตรฐานที่รับรองโดย The Federal Communications Commission ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกตั้งขึ้นตาม The Communication มาตรฐานด้านวิทยุ (Radio) โทรทัศน์ (Television) สายไฟ (Wire) ดาวเทียม (Satellite) และสายสัญญาณ (Cable) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ผ่านการรับรองจาก FCC เท่านั้น ที่สามารถนำเข้าไปขายได้นสหรัฐอเมริกา

CE ย่อมาจากคําว่า Conformite Europeene เป็รนภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิต (Manufacturer’s Declaration) การันตีได้ว่าสินค้านั้น คุณสมบัติตามข้อกําหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป และสามารถวางจําหน่าย หรือเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป

RoHS ย่อมาจาก Restriction of Hazardous Substances ถูกกำหนดโดยสหภาพยุโรป (EU) ว่าด้วยเรื่องของการสารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว

ลองสังเกตก่อนซื้อให้ดี และเลือกแบบที่เหมาะกับ Gadgets ของคุณดูนะคะ
ที่มา: ideashopthailand


Photo of author
WRITTEN BY

supawadee