ยุคนี้สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ยิ่งทุกวันนี้ 3G กำลังมาแรง ยิ่งทำให้แบตเตอรี่มือถือหมดไว้ขึ้น บางทีก็น่าหงุดหงิดไม่น้อย ใช้ไม่ถึงวันแบตเตอรี่หมด เล่นต้องพกที่ชาร์ทแบตไปไหนมาไหนด้วยทุกวีทุกวันก็คงจะไม่ไหว ดังนั้นก็ต้องพึ่งตัวช่วย “แบตเตอรี่แบบพกพา” (External Battery)
แบตสำรองที่มีให้เลือกมากมาย หลากหลายแบบตามขนาดความจุที่แตกต่างกันไป อันไหนดี รุ่นไหนเหมาะ คงต้องเลือกให้เข้ากับความต้องการของคุณเองแล้วละ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ อุปกรณ์ที่เราจะใช้ชาร์ต มีความจุของแบตเตอรี่เท่าไร เช่น iPhone 5 แบตเตอรี่ มีความจุประมาณ 1440 mAh ถ้าจะชาร์ทให้เต็ม 100% ก็ควรเลือกแบตสำรองรุ่นที่มีความจุประมาณ 1700 mAh ขึ้นไป
ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความจุของแบตเตอรี่ SmartPhone และ Tablet กันหน่อยดีกว่าค่ะ
SmartPhone โดยทั่วไป แบตเตอรี่ความจุประมาณ 1,350 – 1,500 mAh
Blackberry แบตเตอรี่ความจุประมาณ 1100 mAh
เคยสังเกตกันบ้างมั้ย? บนกล่องแบตเตอรรี่สำรองจะมีสัญลักษณ์เหล่านี้
FCC เป็นมาตรฐานที่รับรองโดย The Federal Communications Commission ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกตั้งขึ้นตาม The Communication มาตรฐานด้านวิทยุ (Radio) โทรทัศน์ (Television) สายไฟ (Wire) ดาวเทียม (Satellite) และสายสัญญาณ (Cable) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ผ่านการรับรองจาก FCC เท่านั้น ที่สามารถนำเข้าไปขายได้นสหรัฐอเมริกา
CE ย่อมาจากคําว่า Conformite Europeene เป็รนภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิต (Manufacturer’s Declaration) การันตีได้ว่าสินค้านั้น คุณสมบัติตามข้อกําหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป และสามารถวางจําหน่าย หรือเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป
RoHS ย่อมาจาก Restriction of Hazardous Substances ถูกกำหนดโดยสหภาพยุโรป (EU) ว่าด้วยเรื่องของการสารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว
ลองสังเกตก่อนซื้อให้ดี และเลือกแบบที่เหมาะกับ Gadgets ของคุณดูนะคะ
ที่มา: ideashopthailand