การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและความพร้อมในด้านอื่นๆ เรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ช่วยในการดำเนินงานก็ดูจะมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะในงานบริการที่ต้องการความรวดเร็ว ถูกต้อง และเอื้อให้เกิดการทำงานร่วมกันโดยมีอุปสรรคน้อยที่สุด
ทีมงาน Ai Magazine มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณต้น ชลธิศ มังคะลี Retail- IT Development Manager ฝ่ายธุรกิจค้าปลีก เครือข่ายผู้แทนจำหน่าย บริษัท เอสซีจี ซีเมนต์- ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด คุณต้นคืออีกหนึ่งท่านที่เห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ โดยไม่กลัวที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการที่คุ้นเคย หน้าที่โดยทั่วไปของคุณต้นคือดูแลงานในส่วนของการพัฒนาระบบไอที และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในศูนย์บริการ SCG HOME SOLUTION ศูนย์บริการและจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจร ซี่งมีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ด้วยเน้นการบริการลูกค้าอย่างครบวงจรโดยผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจี
“สำหรับลูกค้า SCG HOME SOLUTION เราจะมีหัวใจหลักของการบริการคือ เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญของเอสซีจี ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีที่คอยให้บริการด้านให้คำปรึกษา แนะนำข้อมูลในเชิงลึกกับลูกค้าที่เข้ามา รวมถึงบริการออกแบบและประมาณการสินค้า แค่ลูกค้ามีไอเดียเข้ามาคุยกับพนักงานของเรา พนักงานก็จะให้คำแนะนำและสามารถออกแบบให้กับลูกค้าตามความต้องการของลูกค้าได้ สุดท้ายได้แก่ บริการติดตั้งและรับประกัน เรามีการให้บริการเข้าไปติดตั้งที่หน้างาน โดยช่างที่ผ่านมาตรฐานการอบรมจากเอสซีจี และมีการรับประกันงานติดตั้ง ซึ่งบริการของเราก็จะครอบคลุมสินค้าในหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น กลุ่มหลังคา ฝ้าผนัง ภูมิทัศน์ภายนอกหรือแลนด์สเคป ห้องน้ำ วัสดุปิดผิว และสินค้าโครงสร้างต่างๆ ซึ่งต่อไปเราจะขยายสินค้าและบริการให้ครบครันขึ้นครับ”
ปัจจุบัน SCG HOME SOLUTION มีทั้งหมด 21 สาขาทั่วประเทศไทย และมีแผนจะขยายสาขาออกไปอีก โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีถึง 40 สาขา และ 85 สาขาภายใน 5 ปี เมื่อถามถึงปัญหาและอุปสรรคที่ต้องพบเจอในการดำเนินงาน คุณต้นบอกว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องของเวลาที่ต้องการความรวดเร็วเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว
“ปัญหาในการทำงานจะเป็นเรื่องของระยะเวลามากกว่าครับ เนื่องจากจุดมุ่งหมายของเราคือ การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความรวดเร็วในการทำงานให้ทันกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงเรื่องความสวยงามและความแม่นยำในการออกแบบ ประมาณการ ลูกค้าต้องการจะเห็นภาพจริงตามแบบ ต้องการทราบสินค้า งบประมาณที่ต้องเตรียม และความรวดเร็วในการให้บริการ เราจึงต้องการที่จะย่นระยะเวลาในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงในการลดขั้นตอนการทำงานของเราเองด้วย คืออย่างที่เกริ่นตั้งแต่แรกเรามีการให้บริการในหลายกลุ่มสินค้า มีทั้งห้องน้ำ หลังคา พื้นและผนัง เราก็อยากให้การส่งต่องานมันเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ให้บริการลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้นครับ”
เราถามคุณต้นถึงเรื่องซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำงาน และเหตุผลที่ไว้วางใจเลือก ArchiCAD มาใช้กับ SCG HOME SOLUTION ซึ่งคุณต้นก็ให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา
“การใช้งานซอฟต์แวร์หลักๆ เลยก็จะเป็นเรื่องของการออกแบบและการประมาณการสินค้า เพราะอย่างที่เรียนให้ทราบว่า คีย์หลักของ SCG Home Solution คือพนักงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารกับลูกค้า เราจึงนำ ArchiCAD มาใช้งานในส่วนนี้เป็นหลัก เป็นเรื่องของการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้แม่นยำ ในแง่ของการทำ Drawing ต่างๆ การทำ 3D Model เพื่อนำเสนอแบบให้ลูกค้า การถอดรายการสินค้าที่ลูกค้าจะต้องใช้ เพื่อตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และงบประมาณของลูกค้า ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาใช้ ArchiCAD เราก็ใช้เครื่องมืออยู่หลายรูปแบบ มีตั้งแต่พื้นฐานเลยเช่น Excel รวมไปถึงซอฟต์แวร์อื่นๆ อีกหลายชนิด”
คุณต้นเล่าต่อว่า เนื่องจากเพิ่งเริ่มนำ ArchiCAD เข้ามาใช้ในองค์กรอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ ในช่วงแรก สิ่งที่ต้องเน้นคือเรื่องของความเชี่ยวชาญในการใช้งาน เนื่องจากพนักงานต้องมีการฝึกการใช้งานใหม่ เพราะนี่คือการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของเขาจากเครื่องมือแบบเดิม มาเป็นเครื่องมือแบบใหม่ ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการเทรนให้พนักงานได้เข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญในการใช้งาน แต่โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจ
“ค่อนข้างพอใจนะครับ ถือว่าทำงานได้ค่อนข้างดี เนื่องจากช่วยลดระยะเวลาในการออกแบบ ทั้ง 2D และ 3D ด้วยเทคโนโลยีที่มีใน ArchiCAD ทำให้เราสามารถออกแบบทั้ง 2D และ 3D ไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาตรงนั้นไปได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้เราก็ได้มีการพัฒนาต่อยอดในเรื่องการคำนวณรายการสินค้าโดยถอดออกมาจากแบบซึ่งมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อคำนวณออกมาได้ใกล้เคียงกับรายการสินค้าที่ลูกค้าต้องใช้จริงๆ ลูกค้าก็จะรู้สึกพอใจ เพราะไม่ต้องมีการมาขอเคลม หรือมาซื้อเพิ่มภายหลัง”
ส่วนปัญหาในเรื่องของความชำนาญในการใช้งานของเราก็ได้ทางแอพลิแคดเข้ามาช่วยจัดเทรนการใช้งานให้ ติดขัดหรือไม่แน่ใจในการใช้บริการตรงไหน ทางแอพพลิแคดก็มีบุคลากรที่คอยซัพพอร์ต คอยตอบคำถาม การให้บริการของแอพลิแคด โดยรวมแล้วถือว่าโอเคครับ ทั้งความเป็นกันเอง มีอะไรก็คุยกันได้ ค่อนข้างพอใจครับ”
ก่อนที่การสนทนาจะจบลง คุณต้นได้กล่าวทิ้งท้ายถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจของ SCG ไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า
“กระบวนการที่ดีก็จะก่อให้เกิดการทำงานที่ดี ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าของเราได้รับสิ่งที่ดีต่อไป SCG HOME SOLUTION ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง เราอยากให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด ได้สินค้าที่ดี อยู่ในบ้านที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี และได้รับบริการที่ดี ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะปรับกระบวนการเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการนี้ ในเรื่องของบุคลากรอาจจะตอบสนองได้ ทำได้แค่ประมาณหนึ่ง แต่การที่มีเครื่องมือที่ดีที่เข้ามาช่วยก็จะทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ สุดท้ายผลที่ได้รับก็คือ ลูกค้าก็จะได้รับสิ่งดีๆ กลับไปครับ”
