ชั่วโมงนี้ถือเป็นยุคทองของผู้บริโภคก็ว่าได้ครับ สินค้าเศรษฐกิจหลายๆ ตัวลด แลก แจก แถมกันสนั่น เช่น รถยนต์ ซึ่ง ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็น โปรโมชั่นกระหน่ำขนาดนี้มาก่อนสำหรับในบ้านเรา เช่น ผ่อน 0% 48 เดือน สำหรับรถค่ายญี่ปุ่น หนำซ้ำทองคำราคาก็ลงอีก ซึ่งทำให้หลายท่านกำทองแน่น หนาวกันเลยทีเดียว เพราะซื้อไว้ลงทุนที่สองหมื่นกว่า ก็ร้องเพลงรอกันไป ไม่เป็นไรครับ ไม่ขาย ไม่ขาดทุน ไหนๆ ก็คุยเรื่องเศรษฐกิจแล้ว ขอนำข้อมูลการวิจัยจากองค์กรระดับโลกที่เกี่ยวกับประเทศไทยมาแบ่งปัน เพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ทราบกันไว้ครับ
จากข้อมูลรายงาน WORLD INVESTMENT PROSPECTS SURVEY 2013–2015 ของ UNCTAD [การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด เป็นองค์กรภายใต้องค์การสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานขององค์การสหประชาชาติ เพื่อสร้างความเจริญในด้านการค้าและการพัฒนา สนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในสาขาการลงทุน การเงิน เทคโนโลยี การพัฒนาองค์กรธุรกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืน (sustainable development) ปัจจุบัน UNCTAD มีสมาชิก 194 ประเทศ จากทุกภูมิภาคของโลก ทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้ง] ประเทศไทยเป็นประเทศเป้าหมายที่ดีทางเศรษฐกิจอันดับ 8 ของโลก รองจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอันดับ 4 ซึ่งหมายถึงการลงทุนย่อมหันไปมองอินโดนีเซียมากกว่าประเทศไทย
ประเทศไทยมีกรุงเทพเป็นเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพอยู่ในอันดับที่ 88 ของเมืองหลักๆ ทั่วโลก ในขณะที่สิงคโปร์ มีค่าครองชีพอยู่อันดับ 4 ของโลก และอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 119 (ผลสำรวจของ Mercer Cost of Living 2014 )
ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจ เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
ประเทศไทยส่งออกมันสำปะหลัง เป็นอันดับ 1ของโลก
ประเทศไทยส่งออกน้ำตาล เป็นอันดับ 2 ของโลก
ประเทศไทยส่งออกสินค้าประมง เป็นอันดับ 3 ของโลก
ประเทศไทยส่งออกข้าวและพืชไร่ เป็นอันดับ 4 ของโลก
ประเทศไทยเป็นประเทศที่สะดวกในการทำธุรกิจในอันดับที่ 28 สำหรับปี 2014 และขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 26 ในปี 2015 จากคะแนนในหมวดหมู่ต่างๆ ตามตาราง (อินโดนีเซียอยู่อันดับที่ 119 , สิงคโปร์ อันดับ 1 )
ข้อมูลจาก http://www.doingbusiness.org
โดยภาพรวมยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า ประเทศไทยยังน่าอยู่ น่าทำงาน น่ามาทำธุรกิจสำหรับนักลงทุน เพียงแต่บุคลากรสายอาชีพ และระบบการจัดการภาครัฐของไทยต้องตอบสนองความต้องการของธุรกิจต่างๆ ให้ได้ครับ
บทความโดย : SOMSAK – A/E/C
ขอบคุณรูปภาพ : 500fastcashonline
