People Talks

Design Thinking

Design Thinking

เผลอแว๊ปเดียว ครึ่งปีซะแล้วนะครับ … หวังว่าหลายคนได้ทำในสิ่งที่หวัง ที่ตั้งใจ และคงมีอีกหลายเรื่องที่ คิดแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำเสียทีนะครับ … ยังไงก็อย่าตั้งท่านานจนเกินไปนะครับ ..

สำหรับผมเองก็เป็นอย่างนั้น หลายอย่างที่อยากทำ ก็ยังค้างคา แต่เชื่อมั้ยครับ ว่าคนเรามักต้องให้สถานการณ์ บังคับให้ทำ …

หากอยากมีชีวิตที่เลือกได้คงต้องพยายามมีวิธีคิดที่หลุดพ้นจากการถูกสถานการณ์นำพาไปนะครับ …

ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าชีวิตออกแบบได้อยู่ที่เราได้คิดถึงชีวิตที่อยากจะได้ อยากจะเป็นหรือไม่ … เมื่อพูดถึงการออกแบบแล้วทำให้นึกถึงงานหนึ่งที่มีโอกาสไปเดินดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ก็ต้องมีเรื่องให้กลับมาคิดมาเขียนบอกเล่าในวันนี้

งาน Engineering Expo ’15 หรืองานวิศวะ ’58 ซึ่งมีนวัตกรรมดีๆ จากน้องๆ นักศึกษาวิศวะมากมายซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยทั้งภาคอุตสาหกรรม และชีวิตคนทั่วไปได้ไม่ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไปแบบอย่างน่าเสียดายคือการออกแบบ (Design) ซึ่งทำให้ผมย้อนคิดในตอนทำโปรเจคก่อนเรียนจบ ก็เน้น ความสามารถของนวัตกรรม (Function) โดยไม่ได้สนใจหน้าตาของเครื่องที่ออกแบบเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นขี้เหร่เลยก็ว่าได้… จึงทำให้รู้สึกเข้าใจเครื่องที่มีนวัตกรรมสุดยอดต่างๆ ของน้องๆ ที่ไม่เน้นหน้าตา แต่ก็ดูดีกว่าเครื่องที่ผมเคยออกแบบมามากๆ

ตัวอย่างเครื่อง Automated Guided Vehicle หรือที่เรารู้จักกันว่า AGV ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองเรื่องการขนส่งชิ้นส่วนต่างๆ ในโรงงาน เพื่อลดแรงงานคนและลดต้นทุนต่างๆ ซึ่ง Concept ในการสร้างเจ้าเครื่องนี้ดีมากครับ …

ถึงแม้ในตลาดจะมีมาสักพักแล้ว แต่เมืองไทยยังไม่ค่อยนิยม เพราะราคาแพงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าจ้างคนงาน แต่ด้วยปัญหาแรงงานต่างๆ เชื่อแน่ว่า AGV จะเข้ามาบทบาท และวิ่งไป วิ่งมา ในหลายๆ โรงงานอย่างแน่นอนครับ

แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังให้น้องๆ พระจอมเกล้า ลาดกระบังนะครับ หวังว่าจะเห็น AGV และหุ่นยนต์ที่จะออกมาช่วยภาคอุตสาหกรรมในราคาที่เหมาะสม เร็วๆ นี้นะครับ

และพอย้อนนึกถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ Function สุดยอดแต่หน้าตาไม่น่าใช้และสุดท้ายจำต้องหายสาบสูญจากตลาดไป
เพราะฉะนั้นในยุคปัจจุบันเมื่อผู้พัฒนาจะลงมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใดๆ หน้าตาจึงเป็นเครื่องที่สำคัญกว่าความสามารถอีกด้วยซ้ำ ผมนึกถึงคำพูดประโยคนึงของผู้เปลี่ยนโลกอย่างคุณ Steve Jobs. ที่ว่า “People don’t know what they want … “ ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าจริงครึ่งนึงโดยเฉพาะโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากเราไม่สามารถพัฒนาขนาดที่ท่าน Jobs ลงทุนพัฒนาได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมและนักการตลาดทั่วโลก แนะนำคือการฟังเสียงลูกค้า (Customer Feed Back) ผมว่า ลูกค้ารู้ว่าอยากได้อะไรแต่แค่ยังหาสิ่งที่ใช่และพอดี ไม่เจอ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าบนโลกนี้มีของที่ว่าดีแล้วเพียงใด แต่ด้วยหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงมีช่องว่างให้ผลิตภัณฑ์ที่พอเหมาะพอดีกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนเสมอ

กรณีศึกษาหนึ่งที่ผมชอบมากคือโทรศัพท์รุ่นอาม่า ซึ่งแหวกการแข่งขันของตลาดโทรศัพท์มือถือ ที่มีทั้ง iPhone / Samsung / LG … และ Player ใหม่ๆ ที่ลงสนามพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง และรบกันอย่างดุเดือด

แต่ด้วยการหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และการออกแบบเพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ และเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้อาม่าเป็นโทรศัพท์ที่มีเกือบทุกตู้ขายมือถือ ณ ปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะฉะนั้น Deign Thinking สำหรับผมแล้ว มันคือการคิดให้รอบด้านที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น ออกแบบอุปกรณ์เพื่อให้โรงงานใช้งานมันก็ต้องดูแข็งแรง ล้ำสมัย คล้ายๆ หุ่นยนต์ จะยิ่งโดนใจ ดูเครื่องจักร จากญี่ปุ่นเป็นแรงบันดาลใจได้ครับ เค้าจะเน้นหน้าตา โลโก้ หรือแม้แต่แทบสีต่างๆ บนตัวเครื่องก็ยังให้ความสำคัญ …

ส่วนจะเอาใจ อาม่า ก็ต้องเน้นหน้าตาแบบใหญ่ๆ เน้นๆ มีแว่นขยาย มีไฟฉาย เข้า Function ต่างๆ ได้ง่าย และต้องออกแบบเอาใจลูกหลาน เพื่อยอมควักเงินในกระเป๋า ซื้อมาของขวัญให้อาม่าหรือผู้สูงอายุ อะไรประมาณนั้น !!

เอาละครับ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านสร้างสรรค์ ผลงาน ในครึ่งปีที่เหลืออย่างสนุกสนานนะครับ

Article : เกรกฤทธิ์ เจียรกมลชื่น

Tag :

Photo of author
WRITTEN BY

admin