Articles

ฝึกอบรมพนักงานกับเรา นายจ้างลดหย่อนภาษี 200%

ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน และมีการแข่งขันกันสูงทั้งทางด้านคุณภาพ และต้นทุนการผลิต ถ้าลำพังการใช้แค่เครื่องไม้ เครื่องมือ หรือเครื่องจักรเพียงอย่างเดียวก็คงจะดำเนินธุรกิจไปได้ยาก ด้วยเหตุนี้ ศักยภาพของบุคลากรในแต่ละองค์กรได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำพาธุรกิจก้าวหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบุคลากรเปรียบเสมือนกลไกตัวสำคัญที่จะช่วยพัฒนาองค์การไปสู่ความสำเร็จได้ ทั้งนี้การพัฒนาบุคลากรโดยการส่งเสริมเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ให้แก่คนในองค์การ ซึ่งจะยังผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น ดังเช่น ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.. 2545 ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการมีส่วนร่วมรับผิดชอบพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานของตน ให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะฝีมือ มีประสิทธิภาพ และคุณภาพในการทำงานสูงขึ้น จะส่งผลต่อการผลิตสินค้าและการบริการมีคุณภาพ สามารถแข่งขันทางการค้ากับประเทศอื่นได้

พรบ.ฯ จึงกำหนดให้สิทธิและประโยชน์แก่ ผู้ประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ซึ่งอยู่ในข่ายบังคับเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ต้องดำเนินการฝึกอบรมให้แก่พนักงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมดทุกปี และยื่นแบบส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน  เพื่อประเมินเงินสมทบกองทุน หากไม่จัดฝึกอบรมลูกจ้างหรือไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด ต้องส่งเงินสมทบกองทุนเพื่อนำไปใช้จ่ายในการช่วยเหลือหรืออุดหนุนกิจการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน

แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า การส่งพนักงานเข้ารับการอบรมท่านยังสามารถนำค่าใช้จ่ายมาทำการลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%  เช่น จ่ายค่าอบรม 10,000 บาท สามารถลงบัญชีหักภาษีได้ถึง 20,000 บาท ซึ่งการฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงานมี 2 กรณี ดังนี้

  1. กรณีบริษัทจัดฝึกอบรมขึ้นเองหรือจ้างจัดบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาจัดฝึกอบรมให้ (In-house Training)
  2. กรณีส่งบุคลากรไปรับการฝึกกับบริษัทฝึกอบรมสัมมนา สถานศึกษา หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน (Public Training)

การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน คือการฝึกอบรมฝีมือแรงงานให้กับลูกจ้างตามกฎหมาย มีการจ่าย ค่าจ้าง มีการทำสัญญาจ้างแล้ว (แม้บุคลากรนั้นจะเข้ามาทำงานในวันแรก หรือเป็นช่วงทดลองงานก็ตาม)

หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับรองหลักสูตร
  1. มีเนื้อหาหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นตามสาขาอาชีพ
  2. มีเนื้อหาสอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อกิจการ
  3. ระยะการฝึกอบรมสัมมนาสอดคล้องกับหลักสูตรและไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
  4. เรื่องจำนวนชั่วโมง และจำนวนผู้เข้ารับการฝึกจำนวนชั่วโมงที่ฝึกอบรม
  5. ผู้เข้าอบรมสัมมนาแต่ละรุ่นต้องไม่เกิน 50 คน

 

การยื่นเรื่องเพื่อขอลดหย่อนภาษี กรณี PUBLIC TRAINING
  1. IN HOUSE TRAINING เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับรองหลักสูตร (ตามคู่มือสิทธิประโยชน์การฝึกอบรมฝีมือแรงงาน) กรณีสถานประกอบการ/บริษัท เป็นผู้ดำเนินการฝึกเองหรือจ้างจัดบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาจัดฝึกอบรมให้ (IN-HOUSE TRAINING) มีข้อสรุปดังนี้
  1. คำขอรับการรับรองหลักสูตร ค่าใช้จ่ายในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ (แบบ ฝย / ฝป 1)
  2. รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ กรณีเป็นผู้ดำเนินการฝึกเองหรือจัดจ้างบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาดำเนินการให้ (แบบ ฝย / ฝป 2 – 1)
  3. ใบลงทะเบียนผู้รับการฝึกอบรม (แบบ ฝย / ฝป 3)
  4. ข้อมูลหลักสูตร
  5. ตารางการฝึกอบรมสัมมนา
  6. เรื่องอนุมัติให้จัดฝึกอบรมสัมมนา
  7. ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดหลักสูตร
รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่างๆ ดังนี้
  1. เงินค่าตอบแทนวิทยากร-บริษัทที่เข้ามาดำเนินการ เท่าที่จ่ายจริง หรือตอบแทนเป็นของขวัญสำหรับวิทยากรมูลค่าไม่เกิน 5,000 บาท/คน/รุ่น อย่างใดอย่างหนึ่ง
  2. ค่าลิขสิทธิ์ของหลักสูตรที่ใช้ในการฝึกอบรม
  3. ค่าจ้างล่ามระหว่างการฝึกอบรม
  4. ค่าแปลเอกสารประกอบการฝึกอบรม หรือตำรา
  5. ค่าเอกสารประกอบการฝึกอบรม หรือตำรา เป็นค่าจ้างจัดทำหรือซื้อมาเป็นเล่ม
  6. ค่าจ้างถ่ายเอกสารประกอบการฝึกอบรม
  7. ค่าถ่าย ล้าง อัดและขยายรูปภาพ ค่าบันทึกภาพและเสียงที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม
  8. ค่าจัดทำหรือค่าเช่าสื่อในการฝึกอบรม เช่น เทปเสียง เทปวิดีโอ ซีดี วีซีดี ดีวีดี สไลด์ แผ่นภาพ และรวมถึงชุดทดลอง ชุดสาธิตที่ไม่เข้าข่ายการลงทุน (การเช่าต้องมีระยะเวลาที่แน่นอนและสอดคล้องกับหลักสูตรที่จัดฝึกอบรม)
  9. ค่าวัสดุ เครื่องมือที่ใช้ในการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน ต้องไม่ปะปนกับที่ใช้ในการประกอบกิจการตามปกติของผู้ขอรับความเห็นชอบ โดยจะต้องระบุรายการ จำนวนและราคาของวัสดุ เครื่องมือนั้นให้ชัดเจน
  10. ค่าเช่าเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมต้องมีระยะเวลาเช่าที่แน่นอนและสอดคล้องกับหลักสูตรที่จัดฝึกอบรม
  11. ค่าเช่าสถานที่จัดฝึกอบรม
  12. ค่าเช่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มและอาหารว่างสำหรับผู้รับการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ประสานการฝึกอบรม และวิทยากรระหว่างฝึกอบรม ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  13. ค่าพาหนะเดินทางข้ามจังหวัดไป-กลับภายในประเทศเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมไม่เกิน 2 เที่ยว ยกเว้นค่าเครื่องบิน
  14. ค่าจ้างเหมาพาหนะรับ-ส่งผู้รับการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ประสานการฝึกอบรมและวิทยากรระหว่างการฝึกอบรม ไป-กลับในประเทศไม่เกินสองเที่ยว ยกเว้นค่าแท็กซี่และค่าเครื่องบิน
  15. ค่าจ้างเหมาพาหนะไปดูงานที่กำหนดไว้ในหลักสูตรภายในประเทศ ยกเว้นค่าแท็กซี่และ ค่าเครื่องบิน
  16. ค่าพาหนะเดินทางภายในประเทศของวิทยากร
หมายเหตุ
  • กรณีหลักฐานค่าใช้จ่าย (ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงิน) ที่ออกโดยร้านค้าหรือนิติบุคคล ได้แก่ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่มีรายการถูกต้องสมบูรณ์ พร้อมระบุชื่อหลักสูตร / รุ่น / วันที่อบรม / จำนวนเงินให้ชัดเจน (กรณีใบเสร็จรับเงินของโรงแรมให้แนบใบแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของค่าที่พักและอาหาร)
  • กรณีใบสำคัญรับเงินที่ให้บุคคลเป็นผู้รับเงินในการจ้างทำของหรือเป็นค่าตอบแทน เช่น ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าจ้างทำอาหาร ค่าจ้างเหมาพาหนะรับ–ส่ง เป็นต้น พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับเงิน
  • ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินสามารถใช้สำเนาได้ ให้เซ็นสำเนาถูกต้องทุกใบ
  • ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินขอให้แยกขาดกันในแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นที่ฝึก
  • กรณีที่รวมใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินกันมามากกว่าหนึ่งหลักสูตรหรือหนึ่งรุ่น ก็ให้ถ่ายสำเนาใบเสร็จนั้นตามจำนวนหลักสูตรหรือรุ่นที่รวมกันมา ให้เขียนหมายเหตุแบ่งแยกแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นให้ชัดเจนว่าแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นมีค่าใช้จ่ายหลักสูตรละรุ่นละเท่าไร พร้อมเซ็นชื่อขอรับรองว่าเป็นความจริงด้วย (สามารถทำได้แต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะมีปัญหาเวลาพิจารณา)
  • บิลเงินสดที่ออกกันเองไม่สามารถใช้ได้
  • ค่าใช้จ่าย 16 ข้อข้างต้น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีจำนวนเหมาะสมและจำเป็นกับการฝึกอบรม
  1. PUBLIC TRAINING เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับรองหลักสูตร (ตามคู่มือสิทธิประโยชน์การฝึกอบรมฝีมือแรงงาน) กรณีส่งบุคลากรไปรับการฝึกกับบริษัทฝึกอบรมสัมมนา สถานศึกษา หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน (PUBLIC TRAINING) มีข้อสรุปดังนี้
  1. คำขอรับการรับรองหลักสูตร ค่าใช้จ่ายในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ (แบบ ฝย / ฝป 1)
  2. รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม (แบบ ฝย / ฝป 2-2)
  3. เอกสารประชาสัมพันธ์หลักสูตรอบรม
  4. เอกสารกำหนดการอบรมหลักสูตร
  5. เอกสารการอนุมัติให้บุคลากรเข้ารับการอบรม
  6. ใบเสร็จรับเงินค่าลงทะเบียน
  7. วุฒิบัตร, ประกาศนียบัตรที่ผ่านการอบรม
เงื่อนไขของสถานประกอบการ-สถาบันที่จัดฝึกอบรม (Public Training)

– เป็นสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียน เอกชน สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน

– สถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานของทางราชการ

– สถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ สมาคม หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย

ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมที่นำมายื่นประกอบ มีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมเข้าอบรมหรือค่าลงทะเบียน
  • ค่าพาหนะเดินทางข้ามจังหวัดไป-กลับภายในประเทศเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินสองเที่ยวยกเว้นค่าเครื่องบิน
  • ค่าเช่าที่พักเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ในกรณีสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานไม่ได้จัดสถานที่พักให้
หมายเหตุ

รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร รวมทั้งความถูกต้องของเอกสารเรื่องกรอบค่าใช้จ่ายการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานภายนอก เหมือนกรณีฝึกอบรมภายใน

 

กระบวนการจัดอบรมพนักงานให้ได้สิทธิ์

ข่าวดี..สำหรับ องค์กรที่กำลังมองเรื่องการบริหารภาษี โดยพิจารณาจากการนำค่าใช้จ่ายมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการใช้ลดหย่อนภาษี ทุกหลักสูตรอบรมของ DETI สถาบันฝึกอบรมเทคโนโลยีด้านการออกแบบวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) สามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 200% ทำเช่นนี้เป็นการหักภาษีอย่างถูกวิธี อีกทั้งเป็นการพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน ทำให้ทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทก็สามารถลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น เรียกว่ามีแต่ได้กับได้ ซึ่งท่านสามารถสอบถาม และค้นหาคอร์สฝึกอบรมด้านการออกแบบวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ได้ที่ 02-744 7827-8 หรือ  www.deti.co.th

อ้างอิง :

บทความ : Wilaiphan S.


Photo of author
WRITTEN BY

Frozen Whale

ยังมีอีกหลายอย่างที่รอเราเข้าไปค้นหา สิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่ได้แปลว่าไม่มี อย่าหยุดที่จะก้าว แต่จงก้าวต่อไปในทุกๆ วินาที เรียนรู้และอัปเดตอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ