ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน และมีการแข่งขันกันสูงทั้งทางด้านคุณภาพ และต้นทุนการผลิต ถ้าลำพังการใช้แค่เครื่องไม้ เครื่องมือ หรือเครื่องจักรเพียงอย่างเดียวก็คงจะดำเนินธุรกิจไปได้ยาก ด้วยเหตุนี้ ศักยภาพของบุคลากรในแต่ละองค์กรได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำพาธุรกิจก้าวหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบุคลากรเปรียบเสมือนกลไกตัวสำคัญที่จะช่วยพัฒนาองค์การไปสู่ความสำเร็จได้ ทั้งนี้การพัฒนาบุคลากรโดยการส่งเสริมเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ให้แก่คนในองค์การ ซึ่งจะยังผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น ดังเช่น ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการมีส่วนร่วมรับผิดชอบพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานของตน ให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะฝีมือ มีประสิทธิภาพ และคุณภาพในการทำงานสูงขึ้น จะส่งผลต่อการผลิตสินค้าและการบริการมีคุณภาพ สามารถแข่งขันทางการค้ากับประเทศอื่นได้
พรบ.ฯ จึงกำหนดให้สิทธิและประโยชน์แก่ ผู้ประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ซึ่งอยู่ในข่ายบังคับเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ต้องดำเนินการฝึกอบรมให้แก่พนักงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมดทุกปี และยื่นแบบส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อประเมินเงินสมทบกองทุน หากไม่จัดฝึกอบรมลูกจ้างหรือไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด ต้องส่งเงินสมทบกองทุนเพื่อนำไปใช้จ่ายในการช่วยเหลือหรืออุดหนุนกิจการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า การส่งพนักงานเข้ารับการอบรมท่านยังสามารถนำค่าใช้จ่ายมาทำการลดหย่อนภาษีได้ถึง 200% เช่น จ่ายค่าอบรม 10,000 บาท สามารถลงบัญชีหักภาษีได้ถึง 20,000 บาท ซึ่งการฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงานมี 2 กรณี ดังนี้
- กรณีบริษัทจัดฝึกอบรมขึ้นเองหรือจ้างจัดบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาจัดฝึกอบรมให้ (In-house Training)
- กรณีส่งบุคลากรไปรับการฝึกกับบริษัทฝึกอบรมสัมมนา สถานศึกษา หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน (Public Training)
การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน คือการฝึกอบรมฝีมือแรงงานให้กับลูกจ้างตามกฎหมาย มีการจ่าย ค่าจ้าง มีการทำสัญญาจ้างแล้ว (แม้บุคลากรนั้นจะเข้ามาทำงานในวันแรก หรือเป็นช่วงทดลองงานก็ตาม)
หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับรองหลักสูตร
- มีเนื้อหาหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นตามสาขาอาชีพ
- มีเนื้อหาสอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อกิจการ
- ระยะการฝึกอบรมสัมมนาสอดคล้องกับหลักสูตรและไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
- เรื่องจำนวนชั่วโมง และจำนวนผู้เข้ารับการฝึกจำนวนชั่วโมงที่ฝึกอบรม
- ผู้เข้าอบรมสัมมนาแต่ละรุ่นต้องไม่เกิน 50 คน
การยื่นเรื่องเพื่อขอลดหย่อนภาษี กรณี PUBLIC TRAINING
- IN HOUSE TRAINING เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับรองหลักสูตร (ตามคู่มือสิทธิประโยชน์การฝึกอบรมฝีมือแรงงาน) กรณีสถานประกอบการ/บริษัท เป็นผู้ดำเนินการฝึกเองหรือจ้างจัดบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาจัดฝึกอบรมให้ (IN-HOUSE TRAINING) มีข้อสรุปดังนี้
- คำขอรับการรับรองหลักสูตร ค่าใช้จ่ายในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ (แบบ ฝย / ฝป 1)
- รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ กรณีเป็นผู้ดำเนินการฝึกเองหรือจัดจ้างบริษัทฝึกอบรมสัมมนามาดำเนินการให้ (แบบ ฝย / ฝป 2 – 1)
- ใบลงทะเบียนผู้รับการฝึกอบรม (แบบ ฝย / ฝป 3)
- ข้อมูลหลักสูตร
- ตารางการฝึกอบรมสัมมนา
- เรื่องอนุมัติให้จัดฝึกอบรมสัมมนา
- ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดหลักสูตร
รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่างๆ ดังนี้
- เงินค่าตอบแทนวิทยากร-บริษัทที่เข้ามาดำเนินการ เท่าที่จ่ายจริง หรือตอบแทนเป็นของขวัญสำหรับวิทยากรมูลค่าไม่เกิน 5,000 บาท/คน/รุ่น อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ค่าลิขสิทธิ์ของหลักสูตรที่ใช้ในการฝึกอบรม
- ค่าจ้างล่ามระหว่างการฝึกอบรม
- ค่าแปลเอกสารประกอบการฝึกอบรม หรือตำรา
- ค่าเอกสารประกอบการฝึกอบรม หรือตำรา เป็นค่าจ้างจัดทำหรือซื้อมาเป็นเล่ม
- ค่าจ้างถ่ายเอกสารประกอบการฝึกอบรม
- ค่าถ่าย ล้าง อัดและขยายรูปภาพ ค่าบันทึกภาพและเสียงที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม
- ค่าจัดทำหรือค่าเช่าสื่อในการฝึกอบรม เช่น เทปเสียง เทปวิดีโอ ซีดี วีซีดี ดีวีดี สไลด์ แผ่นภาพ และรวมถึงชุดทดลอง ชุดสาธิตที่ไม่เข้าข่ายการลงทุน (การเช่าต้องมีระยะเวลาที่แน่นอนและสอดคล้องกับหลักสูตรที่จัดฝึกอบรม)
- ค่าวัสดุ เครื่องมือที่ใช้ในการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน ต้องไม่ปะปนกับที่ใช้ในการประกอบกิจการตามปกติของผู้ขอรับความเห็นชอบ โดยจะต้องระบุรายการ จำนวนและราคาของวัสดุ เครื่องมือนั้นให้ชัดเจน
- ค่าเช่าเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมต้องมีระยะเวลาเช่าที่แน่นอนและสอดคล้องกับหลักสูตรที่จัดฝึกอบรม
- ค่าเช่าสถานที่จัดฝึกอบรม
- ค่าเช่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มและอาหารว่างสำหรับผู้รับการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ประสานการฝึกอบรม และวิทยากรระหว่างฝึกอบรม ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ค่าพาหนะเดินทางข้ามจังหวัดไป-กลับภายในประเทศเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมไม่เกิน 2 เที่ยว ยกเว้นค่าเครื่องบิน
- ค่าจ้างเหมาพาหนะรับ-ส่งผู้รับการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ประสานการฝึกอบรมและวิทยากรระหว่างการฝึกอบรม ไป-กลับในประเทศไม่เกินสองเที่ยว ยกเว้นค่าแท็กซี่และค่าเครื่องบิน
- ค่าจ้างเหมาพาหนะไปดูงานที่กำหนดไว้ในหลักสูตรภายในประเทศ ยกเว้นค่าแท็กซี่และ ค่าเครื่องบิน
- ค่าพาหนะเดินทางภายในประเทศของวิทยากร
หมายเหตุ
- กรณีหลักฐานค่าใช้จ่าย (ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงิน) ที่ออกโดยร้านค้าหรือนิติบุคคล ได้แก่ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่มีรายการถูกต้องสมบูรณ์ พร้อมระบุชื่อหลักสูตร / รุ่น / วันที่อบรม / จำนวนเงินให้ชัดเจน (กรณีใบเสร็จรับเงินของโรงแรมให้แนบใบแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของค่าที่พักและอาหาร)
- กรณีใบสำคัญรับเงินที่ให้บุคคลเป็นผู้รับเงินในการจ้างทำของหรือเป็นค่าตอบแทน เช่น ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าจ้างทำอาหาร ค่าจ้างเหมาพาหนะรับ–ส่ง เป็นต้น พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับเงิน
- ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินสามารถใช้สำเนาได้ ให้เซ็นสำเนาถูกต้องทุกใบ
- ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินขอให้แยกขาดกันในแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นที่ฝึก
- กรณีที่รวมใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินกันมามากกว่าหนึ่งหลักสูตรหรือหนึ่งรุ่น ก็ให้ถ่ายสำเนาใบเสร็จนั้นตามจำนวนหลักสูตรหรือรุ่นที่รวมกันมา ให้เขียนหมายเหตุแบ่งแยกแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นให้ชัดเจนว่าแต่ละหลักสูตร แต่ละรุ่นมีค่าใช้จ่ายหลักสูตรละรุ่นละเท่าไร พร้อมเซ็นชื่อขอรับรองว่าเป็นความจริงด้วย (สามารถทำได้แต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะมีปัญหาเวลาพิจารณา)
- บิลเงินสดที่ออกกันเองไม่สามารถใช้ได้
- ค่าใช้จ่าย 16 ข้อข้างต้น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีจำนวนเหมาะสมและจำเป็นกับการฝึกอบรม
- PUBLIC TRAINING เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับรองหลักสูตร (ตามคู่มือสิทธิประโยชน์การฝึกอบรมฝีมือแรงงาน) กรณีส่งบุคลากรไปรับการฝึกกับบริษัทฝึกอบรมสัมมนา สถานศึกษา หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน (PUBLIC TRAINING) มีข้อสรุปดังนี้
- คำขอรับการรับรองหลักสูตร ค่าใช้จ่ายในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ (แบบ ฝย / ฝป 1)
- รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม (แบบ ฝย / ฝป 2-2)
- เอกสารประชาสัมพันธ์หลักสูตรอบรม
- เอกสารกำหนดการอบรมหลักสูตร
- เอกสารการอนุมัติให้บุคลากรเข้ารับการอบรม
- ใบเสร็จรับเงินค่าลงทะเบียน
- วุฒิบัตร, ประกาศนียบัตรที่ผ่านการอบรม
เงื่อนไขของสถานประกอบการ-สถาบันที่จัดฝึกอบรม (Public Training)
– เป็นสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียน เอกชน สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
– สถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานของทางราชการ
– สถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ สมาคม หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมที่นำมายื่นประกอบ มีดังนี้
- ค่าธรรมเนียมเข้าอบรมหรือค่าลงทะเบียน
- ค่าพาหนะเดินทางข้ามจังหวัดไป-กลับภายในประเทศเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินสองเที่ยวยกเว้นค่าเครื่องบิน
- ค่าเช่าที่พักเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ในกรณีสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานไม่ได้จัดสถานที่พักให้
หมายเหตุ
รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร รวมทั้งความถูกต้องของเอกสารเรื่องกรอบค่าใช้จ่ายการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานภายนอก เหมือนกรณีฝึกอบรมภายใน
กระบวนการจัดอบรมพนักงานให้ได้สิทธิ์
ข่าวดี..สำหรับ องค์กรที่กำลังมองเรื่องการบริหารภาษี โดยพิจารณาจากการนำค่าใช้จ่ายมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการใช้ลดหย่อนภาษี ทุกหลักสูตรอบรมของ DETI สถาบันฝึกอบรมเทคโนโลยีด้านการออกแบบวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) สามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 200% ทำเช่นนี้เป็นการหักภาษีอย่างถูกวิธี อีกทั้งเป็นการพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน ทำให้ทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทก็สามารถลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น เรียกว่ามีแต่ได้กับได้ ซึ่งท่านสามารถสอบถาม และค้นหาคอร์สฝึกอบรมด้านการออกแบบวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ได้ที่ 02-744 7827-8 หรือ www.deti.co.th
อ้างอิง :
- กระทรวงแรงงาน พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545
- คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 122/2545
- www.training2goal.com Download From
- www.huahintraining.com
บทความ : Wilaiphan S.