Article - 3DEXPERIENCE platform, Article Mi, Articles

ชี้ทางรอด ในอุตสาหกรรมการผลิต หลังยุคโควิด-19

ชี้ทางรอดใน อุตสาหกรรมการผลิต หลังยุคโควิด-19

ชี้ทางรอด ในอุตสาหกรรมการผลิต หลังยุคโควิด-19

ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องปรับตัว และเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้รอดในยุคโควิด-19
ไม่มีใคร ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 เราต่างอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายด้าน ยุคที่ต้องแข่งขัน ยุคที่ต้องปรับตัว เพราะถ้าเรายังเลือกที่จะย่ำอยู่กับที่ ในขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังเดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว พอลองสังเกตอีกทีทุกคนรอบตัวคุณก็วิ่งไปข้างหน้ากันหมดแล้ว

อย่างที่เราทราบกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีผลกระทบเพียงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่มีผลกระทบทั่วโลก แม้แต่ผู้ที่มีรายได้ระดับมหาเศรษฐียังต้องปรับตัวเพื่อให้ตัวเองรอดต่อไป ในเหตุการณ์เช่นนี้ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นว่าเราทุกคนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ระบาด โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม จึงต้องมีแนวคิดและวิธีการในการเตรียมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมการผลิต หลังโควิด-19 เพื่อให้เราทุกคนนั้นสามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน โอกาสนี้ จึงได้เชิญ พี่เอ้ ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และนายกสภาวิศวกรไทย ให้เกียรติมาแชร์ข้อมูลและแนะนำทิศทางในการปรับตัวในยุคหลังโควิด และต่อจากนี้ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้เราชาวไทยทุกคนพร้อมต่อสู้ พัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้พร้อมสำหรับการรับมือในทุกสถานการณ์

ในโอกาสนี้ พี่เอ้ ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และนายกสภาวิศวกรไทย ได้แชร์มุมมอง และแนวทางในการปรับตัวใน อุตสาหกรรมการผลิต หลังโควิด-19  วันนี้เราจึงได้หยิบยกเนื้อหาบางส่วนมาแบ่งปันเป็นแนวทางให้กับทุกท่าน แต่สำหรับท่านใดที่ต้องการรับชมแบบเต็มสามารถเข้ามาชมได้ที่นี่ครับ : https://youtu.be/fB-4GE6iPo4  

โลกปั่นป่วน

ปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ถึงแม้ว่าจะไม่มีสถานการณ์โควิดก็ตาม ยกตัวอย่างเมื่อปีที่ผ่านมาช่วงเดือนตุลาคม น้ำท่วมหนักที่อุบลราชธานี ใครจะคิดครับว่าน้ำจะท่วมหนักขนาดนี้ในดินแดนตะวันออกที่ติดกับแม่น้ำโขง แต่ที่น่าสนใจอีกเรื่องก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือนมีข่าว น้ำโขงแล้ง และแล้งที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่ประเทศไทย ที่ลาว เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยพัง เพราะว่าฝนตกหนักหายไปทั้งเมือง ใกล้ๆ ในเวลาเดียวกันภูเขาไฟระเบิด ที่อินโดนีเซีย มีซินามิ เมื่อเรานึกย้อนไปสมัยก่อนกว่าภัยพิบัติธรรมชาติ จะเวียนมาบรรจบครบ 1 รอบ ใช้เวลาเป็น 10 ปี เดี๋ยวนี้ 1 ปี ไม่รู้ต้องเจออะไรบ้าง และในปี 2020 เราเจอโควิด เราก็ไม่มีอะไรจะเหลือแล้ว นั่นหมายความว่า วันนี้โลกไม่เหมือนเดิมครับ

เผ่าพันธุ์เรา คือ เผ่าพันธุ์ โฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens) พัฒนามาเป็นแสนปี ก่อนจะมีน้ำหนักสมอง น้ำหนักร่างกายมากที่สุดนั่นหมายความว่าเผ่าพันธุ์เราฉลาดที่สุดในโลก แต่ผมขอถามว่า เผ่าพันธุ์ โฮโม เซเปียนส์ ที่ฉลาดที่สุดในโลกอย่างเรา สู้สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสมองและเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า ได้หรือไม่ ที่พี่เอ้กล่าวถึงนี้คือ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ที่เราพบในปี 2019 ที่เรียกว่า โควิด 19 ขยายเป็นล้านเท่า ในหัวข้อนี้พี่เอ้ทิ้งท้ายว่า “วันนี้เราสู้เค้าได้ไหม ชนะเผ่าพันธุ์เรามา 50 ล้านคนแล้ว ต่อในปี 2021 เราจะค้นพบวัคซีน แต่อยากให้ลองจินตนาการตามนะครับ ว่าไวรัสโควิด 19 ฝั่งตัวอยู่ในเผ่าพันธุ์เราถึง 50 ล้านคน หรืออาจจะมากกว่านั้น วิวัฒนาการจะมาขึ้นแค่ไหน คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่มีโควิด 20… อีก”

คุณพร้อมที่จะรับมือแล้วหรือยัง พร้อมเข้าสู่ยุคที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เราเติบโตในยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) เปลี่ยนโลกทั้งใบมาหลายทศวรรษ เปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง เพราะโลกาภิวัฒน์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 สิ่ง ที่เปลี่ยนชีวิตเรา เปลี่ยนชีวิตโลก

 

Globalization – Localization

เรื่องแรก เคลื่อนย้ายคน วิศวกรเก่งๆ คนไทย อยู่ซิลิคอนแวลลีย์ หมอไทยเก่งๆ อยู่ที่อเมริกา หมอฟันไทยเก่งๆ อยู่ที่ซิดนีย์ สถาปัตย์ไทยเก่งๆ อยู่ที่สิงคโปร์ เช่นเดียวกัน ฝรั่งเก่งๆ ทำงานอยู่ที่ประเทศไทยก็มี วิศวกรญี่ปุ่น จีน เกาหลี อยู่ในประเทศไทยเยอะแยะเต็มไปหมด นั่นหมายความว่า โลกาภิวัตน์ ทำให้คนสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยเสรี คนเก่งเป็นสมบัติของคนทั่วโลก แต่ตอนนี้ในช่วงโควิดทำให้การเคลื่อนย้ายคนยากขึ้น

เรื่องที่สอง โลกาภิวัตน์ ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงิน ประเทศที่มีเงินฝากเยอะๆ อยากจะมาลงทุนในประเทศไทย สร้างโรงงาน จ้างงานคนไทย หรือไม่ก็ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่วันนี้ดูหุ้นไทยสิครับ ตกเอาๆ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะเงินกลับบ้านเค้าครับ ที่อเมริกามีคนตกงานกี่ 10 ล้านคน คุณรู้หรือไม่ว่าอัตราการตกงาน เป็นภัยพิบัติต่อชาติมากที่สุด ไม่ใช้เพียงภัยพิบัติทางเศรษฐกิจเท่านั้น หัวหน้าครอบครัวตกงาน ลูกออกจากโรงเรียน เกิดปัญหายาเสพย์ติด เกิดปัญหาอาชญากรรม เพราะงั้นแล้วแต่ละประเทศต้องเอาเงินกลับไปจ้างคนบ้านตัวเอง ต่อให้ค่าแรงจะแพงกว่ากี่เท่า เพราะถ้าไม่จ้างประเทศอาจเกิดความวิบัติได้ เพราะงั้นเงินไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว

เรื่องที่สาม โลกาภิวัตน์ เคยให้ข้อมูลได้โดยเสรี สมัยก่อนรุ่นผมจะเรียนอมเริกา ขอวีซ่ายากมาก แต่ช่วงหลังขอวีซ่าไปอเมริกาได้ 10 ปี แสดงว่ารัฐบาลอเมริการู้จักข้อมูลของเราเป็นอย่างดี และมาดูวันนี้ครับ เราซื้อของผ่าน Lazada, Shopee ซื้ออาหารผ่าน Grap, lineman ต่างๆ ข้อมูลเราเป็นเจ้าของไหมครับ โลกทั้งใบวันนี้จะมีเฉพาะขุนกับเบี้ย ไม่มีคนกลางแล้ว ขุนคือเป็นเจ้าของ Platform ได้ข้อมูลทั้งหมด รู้พฤติกรรมของเราหมด เบี้ยก็คือ ซื้อแล้วได้ของ ไม่ต้องบอกนะครับว่าคนไทย เป็นขุนหรือเป็นเบี้ย นั้นหมายความว่าวันนี้กระแสโลกาภิวัตน์จบสิ้นลงและไม่รู้จะฟื้นเมื่อไหร่ โลกได้เข้าสู่ยุค Localization แล้ว

ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนที่ MIT พูดกันว่าเป็นยังไงบ้างที่อเมริกา ผมสงสัยว่าเค้าน่าจะลำบากด้วยเหตุการณ์ในปัจจุบัน แต่เพื่อนผมกลับตอบกับมาว่า “ยู ผมรวยแล้วรวยอีก รวยขึ้นๆๆ” ผมแปลกใจว่าทำไมถึงกลับตาลปัตร ก็ตอนนี้อุตสาหกรรมไบโอเทค ทำเครื่องมือแพทย์ ทำยา ทำวัคซีน หุ้นขึ้นไม่รู้กี่ 100% ทำให้เค้ามีรายได้มากขึ้น ผมก็ถามต่อว่ารัฐบาลอเมริกามีนโยบายอย่างไร ช่วงโควิดที่อเมริกาเคยเชื่อว่าเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ส่งออกเครื่องมือแพทย์มากที่สุด แต่ช่วงโควิดเครื่องมือแพทย์ไม่พอ เครื่องช่วยหายใจก็ไม่พอ ส่งผลให้ยอดการเสียชีวิตมากขึ้น ทำให้คิดว่าในสมัยก่อนเคยทำจำนวนนึง เพราะคาดการณ์จำนวนคนป่วยจำนวนนึง ส่วนอื่นๆ ก็เก็บไปขาย แต่สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันอเมริกาผลิตเครื่องมือแพทย์มากขึ้น ไว้เพื่อใช้ในประเทศ และเก็บไว้เผื่อสถานการณ์อื่นๆ ไม่ยอมขายให้กับที่อื่นๆ ต่อให้มีเงินซื้อ เค้าก็ไม่ยอมขาย ตัวอย่างต่อไป หน้ากาก N95 ประเทศไทยไม่สามารถผลิตเองได้ ต้องไปซื้อจาก 3M ซึ่งทางเค้าเองก็ไม่ขาย อย่างหน้ากากที่เราใส่ๆ กันอยู่ ส่วนมากไส้ข้างในผลิตมาจากประเทศจีน หน้ากากที่คุณใส่อยู่ก็ได้เครื่องจักรมาจากประเทศจีน ในยุคที่ต้องการ การครบจบในตัว ประเทศไทยกลับทำอะไรไม่ได้เลย

เท่านั้นยังไม่พอ ผมถามเพื่อนต่อว่า แล้วอเมริกาจะทำอะไรใหม่ เค้าบอกว่าช่วงที่โควิดระบาด ข้าวไม่พอ ข้าวโพดไม่พอเลี้ยงโคนม เลี้ยงอาหารสัตว์ ที่จะให้เนื้อ ให้นมเลี้ยงคนภายในประเทศ จึงมีนโยบายว่า ต่อให้ออกไปจากห้องนี้แล้วจะมีหิมะตกหนัก อุณหภูมิต่ำแค่ไหน ในห้องนี้ก็ต้องปลูกข้าวได้ ปลูกที่พื้น ผนัง หรือแม้แต่เพดาน ต้องปลูกให้ลูกหลานคนอเมริกันมีกิน เพราะเค้ารู้ว่าในช่วงวิกฤตไม่มีใครช่วยใครได้ นั่นหมายความว่าเพราะเค้าไม่รู้ว่าต่อไปถ้ามีวิกฤตอีก เราจะขายข้าวให้กับเค้าไหม เค้าจะซื้อข้าวโพดจากบราซิลไหม คุณเห็นอะไรไหมครับ ว่าเราพร้อมเข้าสู่ยุคทำให้ครบจบในตัวหรือยัง ตอนนี้ที่อเมริกาเข้าสู่ยุคนี้แล้ว ยอมรับว่าในสมัยก่อนประเทศเค้าใหญ่ใครๆ ก็ต้องเกรงใจ เค้ามีเงิน พิมพ์แบงค์เองได้ คนที่ทำ Localization มาก่อนก็คือ จีน เพราะอเมริกากีดกัน อย่างที่ทราบกัน Google ก็ไม่ได้ร่วม จีนต้องทำเอง โทรศัพท์มือถือไม่แชร์เทคโนโลยี จีนต้องทำเอง เครื่องมือแพทย์ทำเอง รถไฟฟ้าทำเอง Application ทำเองหมด จีนทำแล้ว อเมริกาเริ่มแล้ว แล้วเราละครับ ท่านพร้อมหรือยังที่จะเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ยุคที่เรียกว่า Neo – Nationalism ชาตินิยมใหม่ พอพูดถึงชาตินิยม สังคมไทยจะมองไปในด้านลบ ทุกท่านลองคิดตามผมนะครับ ประเทศในโลกนี้ 200 กว่าประเทศ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมืองจากที่เคยยากจนกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวย คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่เคยเป็นชาตินิยม เช่น ที่ญี่ปุ่นผู้หญิงยังสวมกิโมโนอยู่เลย วันที่กะหล่ำปลีเหลือ รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งให้กินกะหล่ำปลี ก็กินกันทั้งบ้านทั้งเมือง อย่างที่เกาหลี รถญี่ปุ่นดีที่สุดซื้อใช้ไหม โทรทัศน์ Sony ซื้อใช้ไหม เค้ากลับทำเอง Samsung, LG, Kia, Hyundai ชาตินิยมสุดๆ อย่างประเทศมาเลเซีย เยอรมัน อังกฤษ

 ไม่เปลี่ยน คือ แพ้ ไม่เปลี่ยน อาจสูญพันธุ์

พี่เอ้ ได้ยกตัวอย่าง ถึงแบรนด์ดังหลากหลายแบรนด์ ที่เคยเติบโตและโด่งดังมากๆ ในสมันก่อน อาทิ Kodak, Nokia, Motorola ต่างก็เคยเป็นแบรนด์ที่สร้างมูลค่าที่สูงมากในช่วงนึง แต่ก็จบลงในเวลาต่อมา ไม่มีใครคาดคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความสูญเสียได้มากเช่นกัน ถ้าเราไม่คิดจะสู้ เราจะรอดหรือไม่

ค่อยเป็น ค่อยไป

ในสมัยนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง ยังออกโทรทัศน์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะเรากำลังอยู่ในยุค DISRUPTION ยุคทำลาย เพื่อเกิดใหม่ ทำลายล้างแบบไม่เคยมีมาก่อน และเป็นยุคที่ไม่รู้ว่าใครเป็นศัตรู เพราะฉะนั้นทางรอดคือ ต้องปรับตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นเสี้ยววินาที ไม่ใช่เป็นวันแล้วครับ

ปี 2020

อาชีพที่เคยยิ่งใหญ่ เช่น นักการเงิน วิศวกร หลายคนจบมาทำงานไม่ตรงสายไปทำนักการเงินเพราะว่ามีรายได้ที่ดี แต่ตอนนี้ตกงาน เพราะว่าตลาดเงินไม่หมุนเวียน ไม่มีใครลงทุน อย่างเช่น นักกฎหมาย ไม่มีนักกฎหมายจำรัฐธรรมนูญได้ทุกฉบับทั่วโลกไหมครับ ไม่มีครับ แต่คอมพิวเตอร์ MAI สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ทั้งหมด บริษัทใหญ่ๆ ใช้คอมพิวเตอร์ MAI แทนนักกฎหมายแล้วครับ

ใครว่า (เด็ก) คนเดียว เปลี่ยนโลก ไม่ได้

ยกตัวอย่างน้องไรอันคาจิ ช่อง Ryan ToysReview เริ่มทำ Youtube ตอนอายุ 4 ขวบ ปัจจุบันอายุ 8 ขวบ เป็นคนรีวิวของเล่น ปีที่ผ่านมามีรายได้ที่พอจะเปิดเผยได้ 2 พันล้านบาท

ต้องยอมรับเลยว่ายุคสมัยนี้อะไรก็ไม่แน่นอนจริงๆ ใครๆ ก็สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้ แม้แต่เคสของน้อง Ryan หากคุณเปิดโอกาส ลงมือทำ

ขอจบในช่วงของพี่เอ้ ไว้เพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าทุกท่านจะได้รับมุมมอง และแนวความคิด เป็นพลังในการเดินหน้าสู้ต่อไปด้วยกันนะครับ สำหรับท่านใดที่ต้องรับชมแบบเต็ม สามารถดูรับชมได้ที่นี่ : https://youtu.be/fB-4GE6iPo4 

ประเทศไทยถึงเวลาที่ต้องปรับเรื่องของการบูรณาการด้านการผลิต ที่จะสามารถเป็นต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้ หมายถึงสามารถผลิตได้ด้วยคนไทยเองตั้งแต่ต้นจนจบ โดนไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในอนาคตหากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องปิดประเทศอีก เราคนไทยจะรอดได้อย่างไร ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ 

หลังจากที่ทุกท่านได้รับชมข้อคิด และแนวทางในการปรับตัวให้สามารถเดินหน้าต่อ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนและเป็นเครื่องมือให้กับคุณได้ คงหนีไปไม่พ้นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ การที่คุณเลือกใช้เทคโนโลยี ก็เปรียบเหมือนคุณได้เลือกอาวุธติดตัวที่พร้อมจะต่อสู้ กับทุกอย่างที่ต้องเผชิญ เช่นเดียวกันกับที่ แอพพลิแคด สนับสนุนเทคโนโลยีด้านการออกแบบ ซอฟต์แวร์ที่จะเป็นเครื่องมือช่วยสำคัญให้กับวิศวกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการทุกท่าน 

ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับการทำงานไม่น้อยเลย หลายท่านต้อง Work from home ในเหตุการณ์นี้ทำให้เรารับรู้ได้ว่าการปรับตัวในการทำงานเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ เราต้องมีความพร้อมที่จะสามารถทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ และ 3DEXPERIENCE® Platform แพลตฟอร์มสำหรับ Engineer ที่ทาง Dassault Systèmes ได้พัฒนา เพื่อนักออกแบบโดยเฉพาะ ที่ใช้ซอฟต์แวร์ 3D CAD อย่าง SOLIDWORKS 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 3DEXPERIENCE® Platform แพลตฟอร์มที่ Engineer ไม่รู้จักไม่ได้

นอกจาก 3DEXPERIENCE® Platform แล้ว ทางบริษัท แอพพลิแคด จำกัด มหาชน ยังมี Solution ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ (Design), วิเคราะห์ (Simulation), จำลองการผลิต (Prototype) ไปจนถึงการผลิตชิ้นงานจริง (3D Printer or CNC) ที่จะเป็นส่วนนึงในการส่งเสริม ผลักดันให้คนไทยมีเครื่องมือในการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้สามารถครบจบด้วยคนไทยเองในอนาคต คุณสามารถเข้ามาชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.applicadthai.com


Photo of author
WRITTEN BY

Frozen Whale

ยังมีอีกหลายอย่างที่รอเราเข้าไปค้นหา สิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่ได้แปลว่าไม่มี อย่าหยุดที่จะก้าว แต่จงก้าวต่อไปในทุกๆ วินาที เรียนรู้และอัปเดตอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ