ทีมงาน AppliCAD ได้จัดทำวิดีโอสอน ARCHICAD Basic ซึ่งสามารถ เรียนออนไลน์ ออกแบบอาคาร ออกแบบบ้าน 3 มิติ ด้วย ARCHICAD BIM สำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ต้องมีพื้นฐานก็สารมรถออกแบบได้ เข้าใจง่าย เพื่อให้ท่านที่สนใจงานออกแบบอาคาร ออกแบบบ้าน ทั้งสถาปนิกและผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้มีเครื่องมือช่วยในการออกแบบให้เกิดประสิทธิภาพ และสามารถช่วยในการทำงานให้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะ ARCHICAD หากเรียนรู้ และใช้งานได้แล้ว เป็นโปรแกรมออกแบบที่ใช้งานง่าย และเป็นเทคโนโลยี BIM ที่ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐาน
เรียนออนไลน์ ออกแบบอาคาร ออกแบบบ้าน 3 มิติ (3D CAD) ด้วย ARCHICAD BIM ฟรี!!
พร้อมโปรแกรมทดลองใช้ และคู่มือใช้งาน ARCHICAD ภาษาไทย
สำหรับท่านที่สนใจสามารถชมรายละเอียดการสอน และสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เข้าชมการเรียน การสอน แบบออนไลน์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมทั้งรับโปรแกรมทดลองใช้ฟรี และคู่มือการใช้งานภาษาไทยอีกด้วย
วัตถุประสงค์ : เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของ ARCHICAD พร้อมทั้งตัวอย่างในการใช้งาน แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการ Combine โมเดลด้วย ARCHICAD พร้อมทั้งสร้างแนวคิดและไอเดียของการใช้ ARCHICAD BIM เพื่อเป็นแนวทางนำไปต่อยอดในอนาคต
วิดีโอเรียนออนไลน์นี้เหมาะกับใคร : สถาปนิก ผู้รับเหมา
การเรียนครอบคลุมการใช้งาน คำสั่งพื้นฐานเพื่อสร้างองค์ประกอบอาคาร เช่น ผนัง เสา พื้น ประตู หน้าต่าง
ลงทะเบียน “เรียนออนไลน์ ออกแบบอาคาร ออกแบบบ้าน ด้วย ARCHICAD BIM” ท่านจะได้รับ
>> ลงทะเบียน คลิ๊ก
+ โปรแกรมทดลองใช้งาน ARCHICAD 23 (อ่านเพิ่มเติม บทความ What’s New ARCHICAD 23)
+ คู่มือ ARCHICAD 23 ภาษาไทย (Thai Manual) แนะนำวิธีขั้นตอนการใช้งาน
+ วิดีโอสอนการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น
ตัวอย่างวิดีโอสอน ARCHICAD Basic By AppliCAD
เนื้อหาของ ARCHICAD BIM Basic By AppliCAD มีวิดีโอมีดังนี้
01 : Introduction – สิ่งที่จะเรียนใน ARCHICAD Basic Course
02 : Interface – Start Interface และหน้าต่างการทำงาน
03 : Interface – การใช้งาน Tool bar ในแถบเครื่องมือ File&Edit
04: Interface – การใช้งาน Navigator
05 : Interface – การใช้งาน Reference (Trace)
06 : Interface – การใช้งาน Favorite และ การบันทึก Favorite
07 : การใช้งานผนังเบื้องต้น
08 : การใช้งานเสาเบื้องต้น
09 : การใช้งานพื้นเบื้องต้น
10 : การ Move node / Add new node โดยใช้ Pet Palettes
11 : การ Drag / Drag a Copy และ Mirror a Copy
12 : การ Rotate และ Rotate a Copy
13 : การตัดโดยใช้ Trim / Split และ Adjust
14 : การดูดการตั้งค่ามาใช้งานโดยใช้ Pick Up และ Inject
15 การตั้งค่าหน่วยในการทำงานและการตั้งค่าระดับชั้นงาน
16 : การสร้างสแปนเสาโดยใช้งาน Grid System
17 : การตีผนังแบบบอกระยะในแบบชิดริมและกึ่งกลาง
18 : การใส่ประตูและการกำหนดระยะการติดตั้ง
19 : การใส่หน้าต่างและพื้นชั้นที่ 1
20 : การปรับแก้ระดับผนัง เสา และการบันทึกไฟล์งาน
21 : คำสั่ง Trace และ Copy เสาไปชั้น 2
22 : การเช็คระยะและการใส่พื้น
23 : การใส่ประตูหน้าต่างชั้น 2 และการใช้ Marquee Tool
ARCHICAD 23 อีกหนึ่งใน เทคโนโลยี BIM ที่ช่วยนักออกแบบ อย่างสถาปนิกสามารถถ่ายทอดความคิด และจินตนาการออกมาในรูปแบบจำลอง 3 มิติ เห็นได้ทุกมุมมองทั้งภายใน และภายนอก พร้อมทั้งยังสามารถทำแบบ หรือเขียนแบบ ได้ง่ายกว่าเดิม เพราะสามารถเขียนแบบแปลน รูปด้าน รูปตัด ให้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วย ถอดปริมาณ BOQ ของวัสดุภายในอาคาร เช่น พื้นที่ใช้สอย พื้นที่ผนังด้านนอก ด้านในได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว ที่สำคัญยังเป็นเครื่องมือสำหรับผู้รับเหมา เพื่อใช้ในการทำแบบ เคลียร์แบบ 3 มิติ ให้ได้ความชัดเจน สามารถทำงานร่วมกันทั้งในแผนก นอกแผนก รวมทั้งผู้ประสานงานท่านอื่นๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ต้องทำงานโครงการเดียวกัน ให้สามารถเข้าใจงานตรงกันได้ ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงาน ส่งผลให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
BIM คืออะไร
BIM (Building Information Modeling) คือ แบบจำลองสารสนเทศอาคาร เป็นแนวคิดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในกระบวนการออกแบบและก่อสร้าง ด้วยการสร้างแบบจำลองอาคาร พร้อมทั้งข้อมูล ในองค์ประกอบของแบบจำลองอาคาร จำลองการก่อสร้างอาคาร โดยในปัจจุบัน เทคโนโลยี BIM ได้ถูกนำมาใช้กับงานออกแบบสถาปัตยกรรมเพิ่มมากขึ้น ทั้งในรูปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ สามารถนำไปใช้กับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เช่น งานด้านวิศวกรรม งานก่อสร้างและบริหารงานโครงการก่อสร้าง งานบำรุงรักษาและบริหารจัดการอาคาร เป็นต้น
หลักการทำงาน BIM
BIM เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อการออกแบบอาคารด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยควบคุมกระบวนการต่างๆ ให้สอดคล้องและถูกต้อง ในลักษณะของการบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลงไปในวัตถุสามมิติ เช่น เสา ผนัง พื้น หลังคา ประตู หน้าต่าง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ถูกบันทึกลงไป ให้สามารถนำข้อมูลต่างๆ ในการวิเคราะห์ผลงานออกแบบ และสร้างแบบจำลองอาคาร ในรูปแบบการกระจายและเชื่อมโยงข้อมูล ทั้งเรื่องของแนวคิดการออกแบบ, ข้อมูลด้านพฤติกรรม, เวลา, การควบคุมคุณภาพของงาน รวมถึงการประสานงานกับส่วนฝ่ายตางๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยในการลดข้อผิดพลาดของการทำแบบก่อสร้าง และเพื่อนำไปใช้ประกอบการบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของเทคโนโลยี BIM
+ ช่วยให้ผู้ออกแบบ ฝ่ายผู้ร่วมงาน รวมทั้งลูกค้า สามารถสื่อสารเข้าใจกันง่ายมากขึ้น เพราะเห็นภาพเป็น 3 มิติ แบบชัดเจน
+ ช่วยลดเวลาในการเขียนแบบได้ไม่ต่ำกว่า 30% ทำให้โครงการก่อสร้างเสร็จเร็วกว่าเดิม
+ ช่วยในการทำงาน สามารถทำงานได้เร็วขึ้นด้วยทีมงานเท่าเดิม และสร้างผลประกอบการที่ดี
+ ลดความผิดพลาดงานแก้แบบ ทำแบบ
+ ลดข้อผิดพลาดในการสรุปปริมาณ และการประมาณราคา
+ ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการก่อสร้างผิดแบบ