เลือกซื้อ โปรแกรม CAD ทดแทน สำหรับองค์กร อย่างไรให้คุ้มค่า คุ้มราคา
ในปัจจุบัน หลายๆ องค์กร หรือ บริษัท คำนึงถึงการใช้ ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ มากขึ้น อาจจะด้วยไม่อยากเสียค่าปรับแสนแพง ชื่อเสียงที่มีต่อคู่ค้า หรือ ไม่อยากเสียเวลา เจรจากับ ตัวแทน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์นั้นๆ เจ้าของกิจการ, ผู้บริหารระดับสูง, ฝ่ายจัดซื้อ หรือ IT/BIS มักหาข้อมูล เพื่อจัดทำงบประมาณก่อนการ จัดหาฝจัดซื้อ ซอฟต์แวร์ใดๆ ที่จะนำมาใช้ ในองค์กร แต่โดยส่วนมากมักเป็นตามคำกล่าวที่ว่า “คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ”
บทความนี้ขอรวบรวมปัจจัยที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจใช้ในการเลือกซื้อ โปรแกรม CAD ทดแทน หรือซอฟต์แวร์ทดแทนสำหรับองค์กร มาให้อ่านกันครับ ซึ่งเป็นการรวบรวมมาจากประสบการณ์ที่ให้คำแนะนำให้หลากหลายองค์กร ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยขอพูดถึงเฉพาะซอฟต์แวร์ทางด้านออกแบบ เขียนแบบ ด้าน CAD หรือ AutoCAD ก่อนครับ
4 ปัจจัย การเลือกซื้อ โปรแกรมทดแทน หรือ ซอฟต์แวร์ทดแทน สำหรับองค์กร
- การรองรับไฟล์ (File Format Supported)
- รูปแบบการทำงาน/ใช้งาน (User Experience / User Interface)
- ค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่า
- การให้บริการ ก่อน และ หลังการขาย
1. การรองรับไฟล์ (File Format Supported)
เป็นปัจจัยแรก ที่ต้องคำนึงถึง เพราะ ในการทำงาน ต้องสามารถ เปิด (Open) บันทึก (Save) เป็นนามสกุลเดียวกันกับ โปรแกรมหลัก อย่าง AutoCAD ที่ทุกคนคุ้นเคย
ปัจจุบัน AutoCAD เป็น Version 2024 แต่ Core File Format เป็น DWG 2018 ซึ่งมีรายละเอียด Version และ Core Format ดังนี้
Version |
AutoCAD Versions |
DWG R1.0 | AutoCAD Release 1.0 |
DWG R1.2 | AutoCAD Release 1.2 |
DWG R1.40 | AutoCAD Release 1.40 |
DWG R2.05 | AutoCAD Release 2.05 |
DWG R2.10 | AutoCAD Release 2.10 |
DWG R2.21 | AutoCAD Release 2.21 |
DWG R2.22 | AutoCAD Release 2.22 |
DWG R2.50 | AutoCAD Release 2.50 |
DWG R2.60 | AutoCAD Release 2.60 |
DWG R9 | AutoCAD Release 9 |
DWG R10 | AutoCAD Release 10 |
DWG R11/12 | AutoCAD Release 11, AutoCAD Release 12 |
DWG R13 | AutoCAD Release 13 |
DWG R14 | AutoCAD Release 14 |
DWG 2000 | AutoCAD 2000, AutoCAD 2000i, AutoCAD 2002 |
DWG 2004 | AutoCAD 2004, AutoCAD 2005, AutoCAD 2006 |
DWG 2007 | AutoCAD 2007, AutoCAD 2008, AutoCAD 2009 |
DWG 2010 | AutoCAD 2010, AutoCAD 2011, AutoCAD 2012 |
DWG 2013 | AutoCAD 2013, AutoCAD 2014, AutoCAD 2015, AutoCAD 2016, AutoCAD 2017 |
DWG 2018 | AutoCAD 2018, AutoCAD 2019, AutoCAD 2020, AutoCAD 2021, AutoCAD 2022, AutoCAD 2023, AutoCAD 2024 |
2. รูปแบบการทำงาน/ใช้งาน (User Experience / User Interface)
ปัจจัยนี้ เป็นปัจจัยที่สำคัญ ไม่แพ้ไปกว่า ข้อแรก เพราะ ถ้าซื้อมาแล้ว แต่ผู้ใช้งาน รู้สึกไม่คุ้นเคย หรือ ต้องปรับตัว เสียเวลาเรียนรู้ องค์กร หรือ บริษัท อาจได้รับผลกระทบจาก ประสิทธิภาพ / ประสิทธิผล การทำงานที่ลดลง ซึ่งอาจจะมากกว่า มูลค่าที่ประหยัดได้เสียอีก
ก่อนเลือกซื้อ ควรให้ผู้ใช้งานได้ทดสอบ ทดลอง การใช้งาน หรือ สอบถามจาก ผู้ที่เคยใช้งานซอฟต์แวร์นั้นๆ ประกอบการตัดสินใจได้ การทดสอบ หรือ ทดลอง โดยปกติ จะมีรุ่นทดลองใช้งานได้ 30 วัน โดยรูปแบบการทดสอบ โดยส่วนมาก จะทดสอบ ตามนี้ครับ
a) รูปแบบ คำสั่งพื้นฐาน ที่ใช้งานทุกครั้ง เช่น คำสั่งย่อ (Shortcut Key), คำสั่งพิมพ์ (Print/Plot), Dimension, Text Style, Font, Option หรือ อื่นๆ
b) คำสั่ง ที่ช่วยให้การทำงานสะดวก รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นคำสั่ง ที่ผู้ใช้งานแต่ละคน ใช้งาน
c) คุณสมบัติพิเศษ หรือ เฉพาะเจาะจง ของแต่ละองค์กร เช่น การรองรับ โปรแกรมเสริมเดิม ที่เคยใช้งาน (AutoLISP), VBA หรือ โปรแกรมเฉพาะทางต่างๆ
หลายครั้ง ที่ผู้เขียน ได้ให้คำปรึกษา พบว่า “คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ” หลายราย จึงทำให้เกิดปัญหา สั่งซื้อมาแล้ว ผู้ใช้งานไม่อยากใช้ จนเกิดความสูญเสีย ต่องบประมาณ และ เวลา
3. ค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่า
ปัจจัยด้านนี้ เป็นปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะ องค์กร ที่มีการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่มักใช้เปรียบเทียบ เช่น ค่าใช้จ่ายต่อ License (1-5 ปี). คำสั่ง/คุณสมบัติใหม่ๆ ที่ได้ใช้งาน และ จำนวน License ที่ต้องใช้
ตัวอย่างตาราง ข้อมูลเปรียบเทียบ
AutoCAD LT VS GstarCAD Standard (ซื้อขาด) VS GstarCAD Standard (เช่าใช้)
AutoCAD LT |
GstarCAD Standard (ซื้อขาด) |
GstarCAD Standard (เช่าใช้) |
|
ค่าใช้จ่าย | |||
ปีที่ 1 | 14,000 | 25,400 | 7,200 |
ปีที่ 2 | 14,000 | 0 | 7,200 |
ปีที่ 3 | 14,000 | 0 | 7,200 |
ปีที่ 4 | 14,000 | 0 | 7,200 |
ปีที่ 5 | 14,000 | 0 | 7,200 |
จำนวน License | 5 | 5 | 5 |
รวมค่าใช้จ่าย | = (14,000×5) x 5
= 350,000 |
= 25,400 x 5
= 127,000 |
= (7,200×5) x 5
= 180,000 |
ประหยัดได้ | =350,000 – 127,000
= 223,000 บาท |
=350,000 – 180,000
= 170,000 บาท |
|
จำนวน License | 10 | 10 | 10 |
รวมค่าใช้จ่าย | = (14,000×5) x 10
= 700,000 |
= 25,400 x 10
= 254,000 |
= (7,200×5) x 10
= 360,000 |
ประหยัดได้ | =700,000 – 254,000
= 446,000 บาท |
=700,000 – 360,000
= 340,000 บาท |
คำสั่ง/คุณสมบัติใหม่ๆ ในระยะเวลา 3-5 ปี ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งาน ได้ใช้ กี่คำสั่ง และ ถ้าไม่มี สร้างผลกระทบต่อการทำงาน มากแค่ไหน ให้ผู้ใช้งาน เขียนข้อมูลออกมาเป็นข้อๆ พร้อมระบุรายละเอียดการใช้งาน ประโยชน์ และ รุ่น (Version) จะช่วยให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น
4. การให้บริการ ก่อน และ หลังการขาย
เป็นปัจจัยสุดท้าย ที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่า 3 ข้อก่อนหน้านี้ เพราะ มักจะเกิดปัญหาการใช้งาน ไม่ว่า จะเป็นซอฟต์แวร์ใดๆ จะมีมาก หรือ น้อย แค่นั้นเอง การให้บริการ ทั้งก่อน และ หลังการขาย จึงเป็น ปัจจัยสำคัญ ที่เปรียบเสมือน เป็นผู้ช่วย เป็นที่ปรึกษา คอยช่วยเหลือ ให้ผู้ใช้งาน ผู้ดูแลระบบ ทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งสามารถเช็คเครดิตความน่าเชื่อถือ โดยการสอบถาม การให้บริการ ในกลุ่มผู้ใช้งาน บน Facebook ได้ เพราะ การฟังจากผู้ขาย ทุกรายก็ย่อมบอกว่า ตนเอง บริการดี แบบนั้น แบบนี้ ได้ ทั้งหมดนี้ คือ 4 ปัจจัย การเลือกซื้อ โปรแกรมทดแทน หรือ ซอฟต์แวร์ทดแทน สำหรับองค์กร
ก่อนจบบทความนี้ ผู้เขียน ขอแนะนำ GstarCAD ซึ่งเป็น ซอฟต์แวร์ทางเลือก ด้านออกแบบ/เขียนแบบ ที่จำหน่ายในไทย มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) โดย บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) (AppliCAD PLC.)
ทำไมผู้เขียนถึงแนะนำ GstarCAD
1. การรองรับไฟล์ (File Format Supported)
GstarCAD รองรับการ เปิด/บันทึก ไฟล์ DWG/DXF ตั้งแต่ r12 – 2018 สามารถส่งไฟล์ และ ทำงานร่วมกับผู้ใช้งาน AutoCAD ได้อย่างไร้รอยต่อ
2. รูปแบบการทำงาน/ใช้งาน (User Experience / User Interface)
คำสั่งย่อ สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม อีกทั้งยัง Copy ชุดคำสั่งย่อที่ตั้งไว้เอง มาใช้งานต่อได้เลย รูปแบบเมนูหน้าต่างการทำงาน เรียกว่า ใกล้เคียง (เหมือน) AutoCAD มากที่สุด ในจำนวน CAD ทางเลือก ด้วยกัน
3. ค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่า
ตามตารางตัวอย่าง ข้างบน ครับ ถ้าองค์กร หรือ บริษัท ของพี่ๆ ใช้งานมากกว่า จำนวนในตาราง ก็สามารถ นำรูปแบบ ไปปรับใช้ได้เลยครับ
ผู้เขียน เคยให้คำปรึกษา องค์กร ขนาดใหญ่ ด้วย 4 ปัจจัย ข้างต้น และ ตัดสินใจซื้อ GstarCAD จำนวน 2xx Licenses ทำให้ องค์กรนั้น สามารถประหยัดงบประมาณได้ มากกว่า 10 ล้านบาท
4. การให้บริการ ก่อน และ หลังการขาย
ขอข้อมูล ตัวทดลองใช้งาน หรือ นัดหมายเพื่อชมการสาธิตคุณสมบัติ/การทำงาน
ติดต่อได้ตามช่องทางดังนี้ ครับ
Hotline: 097-060-8367
Line OA: https://lin.ee/5KNfEkK
Facebook: https://www.facebook.com/ThaiGstarCAD/
Email: [email protected]
Website: https://ThaiGstarcad.com/, https://www.applicadthai.com/gstarcad/