หลายคนจินตนาการถึงโลกในอนาคตแตกต่างกันออกไป และหลายจินตนาการก็กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยนักคิดจากทั่วทุกมุมโลก และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ก็เป็นข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในโลกยุคใหม่ แต่กระนั้นทิศทางของเทรนด์เทคโนโลยีในปี 2014 ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก และยังคงสืบเนื่องมาจากปีที่แล้ว หากแต่จะทวีความเข้มข้นมากกว่าเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดกระแสหลัก และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ลองมาสำรวจดูว่าในปี 2014 น่าจะมีเทรนด์เทคโนโลยีอะไรที่จะฮิตกันบ้าง
3D Printing
3D Printing หรือเทคโนโลยีการพิมพ์วัตถุ 3 มิตินั้น เป็นกระบวนการพิมพ์ภาพให้มีรูปร่างเหมือนของจริงจากรูปแบบดิจิตอล โดยสร้างแบบจำลองวัตถุที่ต้องการในคอมพิวเตอร์ แล้วใช้ 3D Printer ปริ้นวัตถุออกมาไม่ว่าจะเป็นงานทางด้านการออกแบบ งานหล่อโลหะ งานทางด้านสถาปัตยกรรม งานทางด้านวิศวกรรม ฯลฯ เรียกได้ว่า 3D Printing เป็นเทคโนโลยีที่สามารถถอดความคิด ของเราให้เปลี่ยนเป็นความจริงออกมาเป็นชิ้นงานที่สามารถจับต้องได้ตามต้อง การ ช่วยทลายข้อจำกัดหลายๆข้อของนักออกแบบรายย่อยไป สามารถเปลี่ยนระบบการผลิตของโลกจากระบบอุตสาหกรรมมาเป็นระบบการผลิตที่ สามารถผลิต หรือซ่อมแซมได้เองภายในครัวเรือน โดยศักยภาพเหล่านี้ได้สร้างความเป็นไปได้มหาศาลในธุรกิจสร้างสรรค์สำหรับ อนาคต และมีแนวโน้มจะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงฉุดไม่อยู่อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: Siam 3D Printer
จอแสดงผล
จอแสดงผลที่จะเป็นพระเอกในปี 2014 จะประกอบด้วยจอที่ยืดหดได้ (Stretchable screen) จอชนิดโปร่งใส (Transparent screen) มองทะลุผ่านไปยังฝั่งตรงข้ามได้ แม้ในขณะแสดงข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอ และที่กำลังมาแทนที่ LCD และ LED ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันก็คือ จอภาพแบบ OLED (Organic Light Emitting Diodes) คือจอภาพที่มีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม มีความบาง และยืดหยุ่น สามารถโค้งงอได้ เทคโนโลยีใหม่นี้จะส่งผลให้สามารถผลิตจอภาพที่มีราคาถูก น้ำหนักเบา มีความอ่อนนุ่มและไม่แตกหัก สามารถนำไปใช้เคลือบบนพื้นผิวที่โค้งเว้าของอุปกรณ์เคลือบที่ต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกหลายชนิด และแน่นอนที่สุด จอเหล่านี้ใช้ระบบสัมผัสที่ทำให้คุณจับต้อง และแบ่งปัน (share) ข้อมูลได้ตามที่ต้องการ
Augmented-reality (AR)
AR หรือ Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual) โดยผ่านทางอุปกรณ์ Webcam, กล้องมือถือ, Computer รวมกับการใช้ software ต่างๆ ซึ่งจะทําให้ภาพที่เห็นในจอภาพ จะเป็น object (คน, สัตว์, สิ่งของ และอื่นๆ) แบบ 3 มิติ ซึ่งสามารถทําให้ผู้ใช้เห็นภาพเสมือนจริงได้รอบด้าน 360 องศากันเลยทีเดียว สิ่งที่ยอดเยี่ยมของ AR คือคุณไม่ต้องสับเปลี่ยนไปมาระหว่างข้อมูลและสภาพแวดล้อม AR ได้นำโลกทั้งสองมาไว้ด้วยกัน โดยวางโลกหนึ่งไว้บนอีกโลกหนึ่ง
Mobile Device และ Applications (Apps)
ในปัจจุบันการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สายโดยเฉพาะกลุ่ม Smart Phone และ Tablet PC ได้รับการตอบรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความสามารถของตัวเครื่องที่ทำงานได้เสมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ใช้พลังงานค่อนข้างน้อย และสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้ ทั้งนี้ในอนาคต ผู้ใช้โทรศัพท์มีแนวโน้มการใช้ Mobile Apps มากขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่โทรศัพท์สามารถช่วยให้ผู้ใช้ทำกิจกรรมได้มากมาย เช่น เข้าสู่สังคมออนไลน์ สนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต ชำระค่าบริการ โอนเงิน ดูหนังฟังเพลง ติดตามข่าวสาร และการสืบค้นข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
Big Data
Big Data หมายถึงกลุ่มข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากและซับซ้อน ที่ทำการเก็บรวบรวมด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ (Analytics) ในด้านข้อมูลก็มีความหลากหลาย เช่น ข้อมูลใน Social Media ภาพ วิดีโอ การซื้อ-ขายสินค้า อีเมล และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นการรู้จักเลือกใช้ข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์ Big Data จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้องค์กรสามารถมองเห็นความต้องการเชิงลึก รู้และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการก้าวสู่ความสำเร็จในธุรกิจได้
